เมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา มูลค่าหุ้นของ First Republic Bank หนึ่งในธนาคารใหญ่ของสหรัฐฯ ได้ดิ่งร่วงลงกว่า 90% ภายในวันเดียว อีกทั้งธุรกรรมการซื้อขายหุ้น FRC ยังมีการหยุดชะงักไปมากถึง 9 ครั้งเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ธนาคาร First Republic Bank ยังคงสามารถเปิดให้บริการต่อไปได้ในขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังมองหาวิธีที่จะฟื้นฟูธนาคารต่าง ๆ ทว่าในอีกด้านหนึ่ง Signature Bank กลับต้องปิดตัวลงโดยที่รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ได้แสดงออกถึงความพยายามใด ๆ เพื่อการฟื้นฟูธนาคาร Crypto แห่งนี้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลสหรัฐฯ พยายามหลายครั้งเพื่อฟื้นฟูธนาคาร First Republic Bank และดูเหมือนว่า JPM, GS รวมไปถึงธนาคารยักษ์ใหญ่อื่น ๆ อีกหลายแห่ง ยังพร้อมใจกันอัดฉีดเงินฝากมูลค่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อหนุน FRC ในสัปดาห์นี้
ทว่าจำนวนเงินดังกล่าวกลับยังไม่เพียงพอที่จะช่วยเหลือธนาคารแห่งนี้ ดังนั้นในปัจจุบัน ธนาคาร First Republic Bank จึงยังคงพยายามฝืนเดินหน้าต่อไป แม้ว่าจะดูเหมือนผู้ป่วยในห้องไอซียูก็ตาม
ธนาคาร Signature Bank ต้องเผชิญหน้ากับ FDIC และไม่สามารถเริ่มการเจรจาใด ๆ กับธนาคารขนาดใหญ่เพื่อรวมเงินทุนมาค้ำจุนไม่ให้ล่มสลาย ขณะเดียวกัน ทางธนาคาร Signature Bank ยังไม่มีโอกาสปรับปรุงสภาพคล่องหรือเพิ่มทุนจากภายนอก และปิดตัวลงในชั่วข้ามคืนโดยไม่ได้รับคำอธิบายใด ๆ
ผู้อำนวยการธนาคาร Signature Bank มองว่าธนาคารของเขาต้องปิดตัวลงโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากทางการเพียงเพราะเป็นธนาคาร Crypto
นอกจากนี้ ธนาคาร Signature Bank ยังพบผู้ซื้อรายใหม่อย่าง Flagstar Bank ซึ่งมีแผนจะทำให้ธนาคารเปิดดำเนินการต่อไปโดยไม่เกี่ยวข้องกับ Crypto หรือกล่าวง่าย ๆ ก็คือ หน่วยงานกำกับดูแลสั่งปิด Signature Bank และปิดธุรกิจการธนาคารสินทรัพย์ดิจิทัล แล้วขายธนาคารแห่งนี้ให้กับธนาคารอื่นไปแล้ว
การเสนอราคาของ Flagstar Bank ไม่ได้รวมเงินฝากประมาณ 4 พันล้านดอลลาร์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจธนาคารสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตของ Signature Bank โดย FDIC จะให้เงินฝากเหล่านี้โดยตรงกับลูกค้าที่มีบัญชีเชื่อมโยงกับธุรกิจของธนาคารสินทรัพย์ดิจิทัลที่ล่มสลาย
ที่มา: reddit