ในขณะที่ตลาด Crypto ยังคงยืนหยัดอย่างมั่นคง ท่ามกลางวิกฤตทางการเงินที่ทำธนาคารหลายแห่งล่มสลาย Bitcoin ได้ถูกบันทึกว่ามีแนวโน้มดีกว่า บริษัท 500 แห่งในดัชนี S&P 500 หุ้นที่เป็นผู้นำตลาดสหรัฐฯ ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2023
นับตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคมเป็นต้นมา ราคา Bitcoin ได้พุ่งขึ้นกว่า 37.06% และมากกว่า 72% นับจากช่วงต้นปี ให้ผลตอบแทนดีกว่า S&P 500 ถึง 97.6% ตามข้อมูลจาก CryptoManiaks แพลตฟอร์มศึกษาด้าน Crypto ของ Finbold เมื่อวันที่ 22 มีนาคม โดยบริษัท S&P 500 นี้ รวมไปถึงบริษัทใหญ่อย่าง FedEx, Apple และ Amazon
จากการเปรียบเทียบนี้ มีบริษัทในกลุ่ม S&P 500 เพียง 12 แห่งเท่านั้นที่ให้ผลตอบแทนสูงถึง 35% นับจากช่วงต้นปี
นอกจากดัชนีหุ้น S&P 500 แล้ว Bitcoin ยังให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ รวมไปถึง ทองคำ ซึ่ง Bitcoin ให้ผลตอบแทนดีกว่าถึง 10 เท่า แสดงให้เห็นว่า Bitcoin อาจอยู่ในช่วง “Super Cycle” ตามคำกล่าวของ Mike McGlone ผู้เชี่ยวชาญด้านสินค้าโภคภัณฑ์จาก Bloomberg
Bitcoin ยังทำให้ผู้ถือกว่า 70% อยู่ในช่วงได้ผลกำไร ซึ่งผู้ถือ Bitcoin กลุ่มนี้ ส่วนมากถือ Bitcoin เอาไว้กว่าหนึ่งปีหรือมากกว่านั้น
นักลงทุนที่ซื้อ Bitcoin ในช่วงที่ Bitcoin มีราคาสูงที่สุดที่ 69,000 ดอลลาร์ ยังได้รับผลตอบแทนกลับคืน 10% ในการลงทุนปกติ แม้ว่าราคา Bitcoin จะอยู่ห่างไกลจากระดับ ATH มากก็ตาม
ขณะนี้ Bitcoin มีราคาซื้อขายอยู่ที่ 27,200 ดอลลาร์ แม้ว่าราคาจะร่วงลดลง 3.20% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา แต่ราคาก็คงเพิ่มขึ้นกว่า 11.50% ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา
Bitcoin ยังมีมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2023 ขณะที่หุ้นธนาคารที่ใหญ่ที่สุด 5 อันดับแรกของสหรัฐฯ มีมูลค่าตลาดลดลงกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์จากวิกฤตการธนาคารในปัจจุบัน
ที่มา: Finbold