<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ผู้ก่อตั้ง Dogecoin ลั่น ! “เพราะธนาคารสหรัฐฯ ปั๊มเงินได้ไม่จำกัด ระบบธนาคารจึงยังปลอดภัย”

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในเช้าวันนี้ (23 มีนาคม) Watcher.Guru สื่อข่าวด้าน Crypto ที่มีผู้ติดตามบน Twitter กว่า 1.7 ล้านคน รายงานว่า Jerome Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เพิ่งได้ออกมาประกาศว่า “ระบบธนาคารยังปลอดภัยดี” 

คำกล่าวนี้ ออกมาหลังจากการล่มสลายของธนาคารสหรัฐฯ ได้แก่ Silvergate, Silicon Valley Bank (SVB) และ Signature Bank ที่คาดกันว่า เกิดจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงตั้งแต่ช่วงต้นปี ส่งผลให้ธนาคารต้องแบกรับภาระมากขึ้นและล่มสลายในที่สุด ก่อนที่การล่มสลายของธนาคารทั้งสามแห่งจะส่งผลกระทบลุกลามไปยังธนาคารต่าง ๆ ในทวีปยุโรป

แต่ถึงแม้ Jerome Powell จะออกมากล่าวเช่นนี้ ชาว Twitter ดูเหมือนว่าจะยังไม่เชื่อมั่นในระบบการธนาคารของสหรัฐฯ มากนัก หนึ่งในนั้นคือ Shibetoshi Nakamoto ผู้ก่อตั้งเหรียญ Dogecoin ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อข่าวนี้ว่า “จริง ๆ แล้ว มันมีธนาคารเพียงแห่งเดียว และมีเงินไม่จำกัด ดังนั้นทุกอย่างยังคงเจ๋งอยู่” ซึ่งทุกคนต่างรู้ดีว่าธนาคารเพียงแห่งเดียวที่ว่านี้ คือธนาคารใด

นอกจากชาวเน็ตแล้ว Elon Musk เจ้าพ่อวงการ IT เจ้าของ Twitter และ Tesla ได้เข้ามาตอบกลับความคิดเห็นนี้ด้วยเช่นกัน โดยเขาได้กล่าวว่า สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายเงินทุนไปฝากที่อื่น คือการที่ผู้คนเลือกที่จะย้ายเงินจากบัญชีเงินฝากที่ได้ดอกเบี้ยต่ำไปยังตลาดเงินที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงกว่า ซึ่งก็คือตั๋วเงินคลัง และการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง “ทำให้สถานการณ์การเคลื่อนย้ายเงินฝากย่ำแย่ขึ้น”

Shibetoshi Nakamoto ตอบกลับคำกล่าวนี้โดยกล่าวว่า สถานการณ์ที่ Elon Musk พูดถึงฟังดูแย่ทีเดียว และเขาก็ไม่ได้รับประโยชน์อะไรจากสถานการณ์เช่นนี้ “ผมแค่ยังอยากซื้อบ้าน”

ในขณะที่ผู้ใช้ Twitter ชื่อ Chairman แสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์ในขณะนี้ว่า “พวกเราควรให้ GPT-4 เป็นประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ” พร้อมเสริมว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ Sam Bankman-Fried อดีต CEO ของ FTX ยังจะแก้ไขปัญหาได้ดีกว่า

ในขณะที่ความคิดเห็นของชาวเน็ตคนอื่น ๆ ได้แสดงความกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อหรือไม่ เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงตั้งเป้าหมายอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 2%

ชะตากรรมของธนาคารในสหรัฐฯ จึงยังคงดูไม่สู้ดีนัก และธนาคารกลางสหรัฐฯ จะออกนโยบายมาในลักษณะใด ก็ต้องรอดูกันต่อไป