<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

10 เหตุผลที่การธนาคารในอนาคตอาจไม่มีธนาคาร เหลือเพียงแค่ “Bitcoin”

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

การล่มสลายของธนาคารทั้งสามแห่งในสหรัฐฯ ตามมาด้วยการล่มสลายของธนาคารในยุโรป ทำให้เราต้องกลับมาทบทวนกันอีกครั้งว่า การฝากเงินเอาไว้กับธนาคาร เป็นเรื่องที่มีความปลอดภัยตามที่เชื่อกันจริงหรือ

โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ Sylvain Saurel นักเขียนจากสื่อข่าว In Bitcoin We Trust ได้เผยแพร่บทความ “10 เหตุผลว่าทำไมอนาคตของการธนาคารอาจไม่มีธนาคาร แต่มีเพียงแค่ Bitcoin” โดยเขาได้ให้เหตุผลที่ธนาคารอาจไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการใช้เพื่อเก็บรักษาเงินออมเอาไว้ในอนาคตด้วย 10 เหตุผล ดังต่อไปนี้

การคอร์รัปชัน

ระบบการธนาคารในปัจจุบันต้องการให้คุณเชื่อมั่นในธนาคารอย่างหมดใจ อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ธนาคารได้แสดงการกระทำต่าง ๆ ที่ทำให้ผู้คนสูญเสียความเชื่อมั่นไป

ธนาคารกระทำการเลวร้ายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการละเมิดการจำนอง, ละเมิดหลักทรัพย์, ละเมิดการคุ้มครองผู้บริโภค, ละเมิดการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ, ละเมิดการคุ้มครองผู้บริโภค, ฉ้อโกง, ละเมิดการธนาคาร, ละเมิดกฎหมายว่าด้วยการกระทำทุจริตในต่างแดน, บกพร่องในการต่อต้านการฟอกเงิน, ต่อต้านการแข่งขันในวงการ และละเมิดภาษี

การธนาคารแบบเก็บเงินสำรองรองเอาไว้เพียงบางส่วน

การธนาคารแบบเก็บเงินสำรองเอาไว้บางส่วน (Fractional reserve banking) คือการที่ธนาคารจำเป็นต้องถือเงินสดเอาไว้จำนวนหนึ่งที่ผู้ฝากทำการฝากเอาไว้ในบัญชี แต่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ตัดสินใจยกเลิกข้อกำหนดในการเก็บเงินสดสำรองของสถาบันทางการเงินทั้งหมด

นั้นความหมายว่าหากผู้ฝากเงินทุกคนต้องการถอนเงินของตัวเองออกพร้อมกัน หรือ “แห่ถอนเงิน” จะทำให้ธนาคารนั้นถึงคราวล่มสลาย เว้นเสียแต่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเข้ามาช่วยหรือรัฐบาลเปลี่ยนแปลงกฎหมายเพื่อแก้ไขระบบ

ปัญหาคือ การแก้ไขปัญหานี้ จำเป็นต้องทำการพิมพ์เงินเฟียตออกมาจากอากาศธาตุเพื่ออุ้มระบบ ซึ่งจะสร้างปัญหาในภายหลัง

ระบบที่ไม่มีความโปร่งใส

มีคำกล่าวที่ว่า “มันเป็นเรื่องดีที่คนในประเทศไม่เข้าใจในระบบการธนาคารและการเงิน เพราะหากพวกเขาเข้าใจ ผมเชื่อว่าจะเกิดการปฏิวัติขึ้นก่อนที่จะถึงเช้าวันพรุ่งนี้”

ความซับซ้อนและความไม่โปร่งใสของระบบทำหน้าที่สนับสนุนการคอร์รัปชันได้เป็นอย่างดี ระบบการธนาคารในขณะนี้จึงเอื้อเฟื้อการคอร์รัปชันของธนาคาร

เงินฝากในธนาคารไม่ได้มีการคุ้มครอง 100%

หากคุณฝากเงินเอาไว้เป็นจำนวนมากในสหรัฐฯ การคุ้มครองสูงสุดจะถูกกำหนดไว้ที่ 250,000 ดอลลาร์เท่านั้น และในยุโรปกำหนดเอาไว้ที่สูงสุด 100,000 ยูโร หากเกินนั้นคุณอาจสูญเสียเงินออมไปทั้งหมด

ปัญหาความเป็นส่วนตัวและการถูกเซนเซอร์

ในบางประเทศ การมีเงินเก็บมากกว่าจำนวนที่กำหนดไว้ รัฐบาลถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แม้ว่าคุณจะได้รับเงินเก็บเหล่านั้นมาอย่างสุจริตก็ตาม นอกจากนี้ หากคุณต้องการทำธุรกรรมเป็นจำนวนมากไปยังบุคคลที่สาม คุณต้องทำการระบุเหตุผลที่ทำการโอนเงินจำนวนนี้ตามกฎหมายต่อต้านการฟอกเงิน

ความเชื่องช้าในการชำระเงินข้ามพรมแดน (SWIFT)

ระบบการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนถูกครอบงำโดยสหรัฐฯ เห็นได้จากช่วงที่เกิดสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน สหรัฐฯ สามารถเข้าถึงการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนของรัสเซียได้อย่างง่ายดาย ทำให้สิทธิในการควบคุมระบบการเงินโลก ดูเหมือนจะอยู่ภายใต้อิทธิพลของสหรัฐฯ

นอกจากนี้ การทำธุรกรรมระหว่างประเทศยังมีความล่าช้า ราคาสูง และไม่มีประสิทธิภาพ ค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมมักขึ้นอยู่กับจำนวนเงินในการทำธุรกรรมอีกด้วย

การทำธุรกรรมระหว่างประเทศ อาจมีความล่าช้าราว 2 ถึง 5 วันทำการ ทำให้คุณไม่อาจทำธุรกรรมในยามเร่งด่วนได้

ค่าธรรมเนียม

ธนาคารอาจใช้ประโยชน์จากตำแหน่งของตัวเองในการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่สูงเกินจริง บริการเล็ก ๆ น้อย ๆ อาจคิดค่าธรรมเนียมในจำนวนที่น่าตกใจ การทำธุรกรรมระหว่างประเทศยังเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในอัตราสูง

นั่นทำให้ Bitcoin สามารถเข้ามาเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้ ด้วยการที่มีเพียงข้อมูลดิจิทัลเท่านั้นที่ถูกส่งไป ทำให้ไม่จำเป็นต้องมีการคิดค่าธรรมเนียมสูง

คุณจำเป็นต้องได้รับอนุญาตในการใช้เงินของคุณ

การที่คุณฝากเงินเอาไว้กับธนาคาร  ทำให้คุณจำเป็นต้องทำตามกฎของธนาคารนั้นที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ ทำให้เงินของคุณขึ้นอยู่กับกฎเกณฑ์ของคนอื่น และหากคุณไม่ยอมรับกฎเหล่านั้น คุณอาจไม่สามารถฝากเงินเอาไว้กับธนาคารดังกล่าวได้

ธนาคารมีเวลาทำการ

หากคุณต้องการทำธุรกรรมในวันหยุดหรือวันนักขัตฤกษ์ คุณอาจจะต้องรอจนกว่าจะถึงวันทำงานธนาคารหรือเวลาทำการของธนาคารนั้น

คุณไม่มีอำนาจเหนือเงินของคุณเอง

การที่เงินในธนาคารของคุณอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของธนาคาร ทำให้เงินที่คุณฝากเอาไว้กับธนาคารไม่ใช่เงินของคุณ เนื่องจากเงินที่อยู่กับคุณภายใต้เงื่อนไขบางอย่าง ไม่อาจเรียกว่าเป็นเงินของคุณได้

ดังนั้นนี่จึงเป็น 10 เหตุผลที่การธนาคารในอนาคต จึงอาจไม่มีธนาคารเหลืออยู่ในระบบอีกต่อไป เมื่อผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของ Bitcoin ที่สามารถทำธุรกรรมได้ทุกที่ทุกเวลาโดยมีค่าธรรมเนียมเพียงเล็กน้อย และสามารถทำธุรกรรมข้ามพรมแดนได้โดยสะดวกสบาย ซึ่งเป็นทางเลือกในการเก็บรักษาเงินออมแทนการเก็บเอาไว้ในธนาคาร ที่ไม่สามารถปกป้องเงินออมของพวกเขาได้ตามความคาดหวัง และมีค่าธรรมเนียมในการใช้บริการที่สูงกว่ามาก

อย่างไรก็ตาม Bitcoin มีความผันผวนสูง การเก็บออมเงินในรูปของ Bitcoin จึงควรทำตามความเหมาะสมของแต่ละคน

คริปโทเคอร์เรนซี และ โทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
อ้างอิง: In Bitcoin We Trust