<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

4 สิ่งที่นักลงทุน Ethereum ควรรู้ เกี่ยวกับการอัปเกรด Shanghai ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 13 เม.ย. นี้

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

วันที่ 13 เมษายนที่จะถึงนี้ ถือเป็นจุดสิ้นสุดของการอัปเกรดที่มีผู้รอคอยมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ บล็อกเชน นับตั้งแต่ Ethereum Merge ที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว โดยหลังจากเสร็จสิ้นการอัปเกรด Shanghai ในที่สุดนักลงทุน Ethereum ก็จะสามารถถอนเหรียญ ETH มูลค่า 3.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ถูกล็อกมาตั้งแต่ในช่วงปลายปี 2020

Shanghai Upgrade จะเกิดขึ้นตอนไหน ?

การอัปเกรดล่าสุดของ Ethereum ที่มีชื่อว่า Shanghai จะเป็นการปลดล็อกเหรียญ ETH ที่ stake ไว้ ซึ่งมีจำนวนเกือบ 18 ล้านเหรียญ หรือคิดเป็นประมาณ 15% ของอุปทานหมุนเวียนเหรียญทั้งหมด โดยการอัปเกรด Shanghai จะเริ่มขึ้นที่ epoch 194048 ในวันที่ 13 เมษายนนี้ เวลาประมาณ 5 นาฬิกา 27 นาที ตามเวลาประเทศไทย อ้างอิงตามประกาศจาก TimBeiko นักพัฒนาหลักของ Ethereum

และในวันนี้ทางสยามบล็อกเชนก็ไม่พลาดที่จะมาพาทุกคนไปดูพร้อมกันว่ามีอะไรบ้างที่เราควรรู้ก่อนเสร็จสิ้นการอัปเกรดครั้งใหญ่ของ Ethereum ในวัน 13 เม.ย.

Shanghai Upgrade คืออะไร?

หลังจากการอัปเกรด The Merge ในเดือนกันยายน 2022 นักพัฒนา Ethereum ก็ได้ประกาศเปิดตัวการอัปเกรด Ethereum Shanghai-Capella บน Mainnet ซึ่งมีเป้าหมายหลักเพื่อเปิดใช้งานฟังก์ชันการถอน ETH ที่ stake ไว้

นับตั้งแต่เปิดตัว Beacon Chain ที่ใช้กลไก PoS เมื่อเดือนธันวาคม 2020 ผู้ที่ต้องการเป็น validator บนเครือข่าย Ethereum 2.0 จำเป็นจะต้อง stake 32 ETH หรือมากกว่านั้นบนเครือข่าย ซึ่ง ETH เหล่านั้นจะถูกล็อกไว้โดยไม่สามารถถอนได้ แต่แล้วในที่สุด การอัปเกรด Shanghai ที่กำลังจะมาถึงนี้ ก็จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวผ่าน Ethereum Improvement Proposal หรือ EIP-4895 ซึ่งจะอนุญาตให้ Staker ทุกคนสามารถถอน ETH ที่ล็อกบน Beacon Chain

ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมอาจถูกลง

ในการอัปเกรด Shanghai นั้นยังมีการอัปเกรดอื่น ๆ ที่เรียกรวมกันว่า Ethereum Improvement Proposals (EIPs) ทั้งนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ EIP-3651, EIP-3860 และ EIP-3855 ซึ่งจะจำกัดค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมสำหรับแอปพลิเคชันทางเทคนิค ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่าบล็อกเชน Ethereum อาจมีค่าธรรมเนียมถูกลง

นอกจากนี้การอัปเกรด Shanghai ยังเกี่ยวข้องกับการอัปเกรดอีกชุดหนึ่งที่เรียกว่า Capella ซึ่งจะถูกนำไปใช้กับ consensus layer ของ Ethereum ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายจะช่วยที่รับรองว่า validator ของ Ethereum จะปฏิบัติตามกฎที่กำหนดโดย execution layer

ราคาจะไปในทิศทางไหน?

หลังเสร็จสิ้นการอัปเกรด คาดว่านักลงทุนจะได้เห็นเหรียญ ETH จำนวนมากหลั่งไหลเข้ามาในตลาด เนื่องจากการถอนเหรียญ ETH ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่นักลงทุนสามารถถอนเงิน ETH ที่ stake ไว้ได้

ดังนั้น Jim McDonald, CTO ของ Attestant บริษัทที่ให้บริการ staking ในลอนดอน จึงคาดการณ์ว่า ราคาของ Ethereum จะลดลงอย่างรวดเร็วหลังจากเสร็จสิ้นการอัปเกรด นอกจากนี้ เขายังคาดการณ์ไว้ด้วยว่าแรงกดดันในการขายจะแย่ลงเรื่อย ๆ เนื่องจากความขาดแคลน ETH ครั้งใหม่จะไหลเข้าสู่ตลาด ซึ่งเป็นผลมาจากการอัปเกรดก่อนหน้าที่ทำให้มีการเผา ETH หลังจากการทำธุรกรรมทุกครั้ง

แต่ McDonald ยังคาดการณ์ว่าราคาของ ETH จะดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อ staker เริ่มมีการเคลื่อนไหวอีกครั้ง อีกทั้งยังมองว่า staker รายใหม่ ๆ อาจจะเข้ามามีส่วนร่วมในตลาดมากขึ้น

McDonald คาดหวังว่า การอัปเกรด Shanghai จะช่วยนำพาสถาบันต่าง ๆ ให้เข้าสู่อุตสาหกรรม Crypto เนื่องจากนักลงทุนจะสามารถฝากและถอนเงินทุนได้ตามต้องการหลังจากการอัปเกรด และสามารถทำให้ Ethereum stake เป็นเสมือนกับบัญชีออมทรัพย์ที่มีดอกเบี้ยมากกว่าการซื้อหุ้น

ทว่าในอีกด้านหนึ่ง Konstantin Lomashuk นักเทรดและผู้เกี่ยวข้องใน Lido กลับกล่าวว่าการอัปเกรด Shanghai จะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาของ ETH ในขณะที่วิกฤตการณ์ธนาคารกำลังดำเนินอยู่ในปัจจุบัน

ที่มา: finance.yahoo, cdn.decrypt