เมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา ในที่สุดนักขุด Bitcoin ก็รู้สึกได้ถึงผลกำไรเป็นครั้งแรกหลังจากที่ผ่าน Crypto Winter มาอย่างหนาวเหน็บกว่า 1 ปีเต็ม โดยปัจจุบันบริษัทหลายแห่งได้สูบฉีด Bitcoin ใหม่เข้าสู่สภาพคล่อง
ปัจจุบันราคา Bitcoin ได้รับการส่งเสริมจากชุมชนจำนวนมากจนทำให้มีราคาพุ่งสูงขึ้นมากกว่า 30,000 ดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นท่ามกลางกระแสค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายประเทศ
รายได้จากการขุด BTC โดยเฉลี่ยใน 30 วันเพิ่มขึ้นเป็น 27.34 ล้านดอลลาร์วันซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนปีที่แล้วตามข้อมูลจาก Blockchain.com
สิ่งนี้นับเป็นความโล่งใจให้กับนักขุด Bitcoin เป็นอย่างยิ่งเนื่องจากที่ผ่านมาพวกเขาต้องดิ้นรนเป็นอย่างมากเพื่อชำระหนี้สินจำนวนมากหลังการขุด Bitcoin ในแต่ละเดือนนั้นประสบกับการขาดทุนมากกว่ากำไร
“นักขุดจำนวนมากกำลังล้มละลายเมื่อปลายปีที่แล้ว แต่ปัจจุบันดูเหมือนว่ากระแสเงินสดของบริษัทเหล่านี้จะดีขึ้นเป็นอย่างมาก และส่วนใหญ่เริ่มไม่มีปัญหาการชำระผูกพันแล้ว”
ตามข้อมูลจาก Luxor เมื่อเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิทำให้นักลงทุนแห่กลับไปเข้าซื้อหุ้นบริษัทขุดคริปโตในตลาดหลักทรัพย์มากยิ่งขึ้น ใบรรดาผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดอย่าง Marathon (MARA.O) และ Riot Platforms (RIOT.O) ได้พบเห็นราคาหุ้นเพิ่มมากขึ้นกว่า 3 เท่าในปีนี้ รวมถึง Valkyrie Bitcoin Miners ETF (WGMI.O) เพิ่มขึ้น 162% และ Greenidge เพิ่มขึ้นมากกว่า 137% ซึ่งก่อนหน้านี้พวกเขาขาดทุนย่อยยับตั้งแต่ต้นปี 2022
ตามการวิเคราะห์ของ BTIG กล่าวว่าค่าไฟฟ้าสำหรับการผลิต 1 BTC นั้นลดลงมากกว่า 40% จากสิ้นปีที่แล้วนั่นหมายความว่าพลังงานในการประมวลผลที่มีอยู่บนเครือข่ายและความยากในการขุดจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและทำระดับสูงสุดใหม่ตลอดเวลา
นักขุด Bitcoin ยังคงกังวล
นักขุด Bitcoin ยังคงไม่สามารถทำตัวแบบสบาย ๆ ได้อย่างเต็มที่เนื่องจากโชคชะตาของพวกเขาขึ้นอยู่กับราคา Bitcoin ที่ยังคงไม่แน่นอนในปัจจุบัน
“หากเราเห็น Bitcoin ทำราคาพุ่งสูงขึ้นในระดับต้น ๆ นั่นหมายความว่าเราอาจเห็นความผันผวนอย่างมาก”
อย่างไรก็ตาม Kevin Kelly หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Delphi Digital กล่าวว่าสภาพแวดล้อมของ Bitcoin นั้นยังคงดีอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2023 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ทั้งนี้แม้ว่าหลายบริษัทจะมีงบดุลที่ดียิ่งขึ้นแล้วแต่นักขุดหลายคนยังคงมีหนี้ที่ต้องชำระมากมาย และนั่นหมายความว่าความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอาจส่งผลให้พวกเขาตกอยู่ในที่นั่งลำบากอีกครั้ง
“การเพิ่มขึ้นของราคา Bitcoin นั้นส่งผลดีกับบริษัทที่ครอบครองในงบดุล แต่อย่างไรก็ตามมันก็ส่งผลเสียให้กับพวกเขาหากราคา BTC ต้องลดลงไปถึง 20,000 ดอลลาร์อีกครั้ง”
ปัจจุบันบริษัทส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการลดหนี้มากกว่าการใช้จ่ายเพื่อซื้ออุปกรณ์ การขุด Bitcoin ใหม่แม้ว่าต้นทุนจะลดลงมากกว่า 69% ในปีที่ผ่านมา แต่ CleanSpark ได้ใช้ประโยชน์จากการลดราคาดังกล่าวโดยได้กว้านซื้อเครื่องขุด Bitcoin ใหม่มากกว่า 45,000 เครื่องซึ่งทำให้เพิ่มพลังประมวลผลมากกว่า 2 เท่า
อย่างไรก็ตามการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของราคาพลังงานและการลดลงของราคา Bitcoin อาจนำไปสู่ Crypto winter อีกครั้งแม้ว่าปัจจุบันราคา Bitcoin จะพุ่งขึ้นเหนือกว่า 30,000 ดอลลาร์แล้วก็ตาม