Dr. Isaac Kohane นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์และนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ร่วมกับนักศึกษาสองคนได้จัดทำการทดสอบ GPT-4 โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อค้นหาว่าโมเดล AI จาก OpenAI ตัวนี้จะแสดงความสามารถในด้านการแพทย์ได้อย่างไร
“ผมตะลึงที่มันทำได้ดีกว่าแพทย์หลายคนที่ผมสังเกตการณ์มาเสียอีก” เขากล่าวในหนังสือ “The AI Revolution in Medicine” ที่ร่วมเขียนกับ Carey Goldberg นักข่าวอิสระ และ Peter Lee รองประธานฝ่ายวิจัยของ Microsoft
ในหนังสือเล่มนี้ Dr. Isaac Kohane กล่าวระบุว่า GPT-4 ซึ่งถูกเปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคมปี 2023 ได้ตอบแบบข้อสอบใบอนุญาตทางการแพทย์ของสหรัฐฯ ถูกต้องมากกว่า 90% ทำได้ดีกว่าที่ GPT-3 และ 3.5
เขายกตัวอย่างการใช้ GPT-4 ทางการแพทย์ว่า GPT-4 สามารถให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ต่อแพทย์ได้ มอบเคล็ดลับในการพูดคุยกับผู้ป่วยเกี่ยวกับอาการของพวกเขาอย่างชัดเจนและแสดงความเห็นอกเห็นใจ ทั้งยังสามารถสรุปย่อรายงานหรืองานวิจัยได้ภายในชั่วพริบตา
นอกจากนี้เขาได้ทำการทดสอบ GPT-4 ด้วยการให้ AI ตัวนี้ทำการวินิจฉัยอาการของเด็กทารกแรกเกิดที่เขาเคยทำการรักษาไปเมื่อหลายปีก่อน โดยการให้รายละเอียดเกี่ยวกับทารกคนนี้ที่เขาได้รับจากการตรวจร่างกาย อัลตราซาวน์ และระดับฮอร์โมน ซึ่ง GPT-4 สามารถวินิจฉัยภาวะต่อมหมวกไตโตตั้งแต่กำเนิด ที่มีโอกาสเกิดขึ้นเพียง 1 ใน 100,000 เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม GPT-4 ไม่ได้ไว้ใจได้เสมอไป และภายในหนังสือเล่มนี้ ได้แสดงให้เห็นถึงความผิดพลาดของ GPT-4 เอาไว้มากมาย ตั้งแต่การแสดงผล BMI ผิดพลาด แม้ว่าจะสามารถคำนวณได้อย่างถูกต้องก่อนหน้านี้ หรือการคำนวณทางคณิตศาสตร์ที่ไม่ถูกต้อง โดยความผิดพลาดเหล่านี้มักจะเกิดกับเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน และระบบมีแนวโน้มว่าจะยืนยันว่าคำตอบนั้นถูกต้อง จึงอาจนำไปสู่ข้อผิดพลาดร้ายแรงอย่างการจ่ายยาหรือวินิจฉัยผิดพลาดได้
GPT-4 ยังมีการสร้างคำตอบขึ้นมาเอง หรือไม่ทำตามคำสั่งได้ การใช้ GPT-4 จึงควร “อ่านซ้ำอีกครั้ง” และ “ยืนยัน” สิ่งที่ AI แนะนำ “ด้วยตาของมนุษย์” ซึ่งอาจทำให้พบข้อผิดพลาดของ GPT-4 ได้ หรือสั่งให้บอทแสดงวิธีการทำงานให้ดู เพื่อที่ผู้ใช้งานจะสามารถยืนยันความถูกต้องได้ด้วยตัวเอง
แม้ว่า GPT-4 จะมีศักยภาพในการย่นระยะเวลาอันมีค่าและทรัพยากรของแพทย์ได้ โดยช่วยทำให้แพทย์สามารถพบผู้ป่วยได้มากขึ้น “แทนที่จะอยู่กับหน้าจอคอม” แต่อย่างไรก็ตาม “พวกเราต้องบังคับให้ตัวเองจินตนาการถึงโลกที่เครื่องจักรมีความฉลาดขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งอาจจะอยู่เหนือสติปัญญาของมนุษย์ในทุกมิติ และคิดอย่างหนักว่าพวกเราต้องการให้โลกใบนั้นมีวิธีการทำงานอย่างไร”
ที่มา: Insider