นักลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลสายฟิวเจอร์สได้เผชิญหน้ากับการขาดทุนอย่างรุนแรงในช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยมีรายงานว่าภายหลัง Bitcoin ร่วงลงทะลุ 29,000 ดอลลาร์และ Ethereum ที่ต่ำกว่า 2,000 ดอลลาร์ได้มีนักลงทุนสูญเงินไปมากกว่า 250 ล้านดอลลาร์หรือราว 8.62 พันล้านบาทในทันที
ราคาของ Bitcoin ร่วงลงมากกว่า 4.5% ในปัจจุบันโดยได้ร่วงลงจากช่วงเช้าในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงและแตะระดับต่ำสุดใหม่รายสัปดาห์ โดยปัจจุบัน Bitcoin กำลังซื้อขายอยู่ที่ราย 29,283 ดอลลาร์ลดลงมากกว่า 2% ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
มูลค่าของสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมดลดลงในทันทีโดยใกล้เคียงกับการร่วงลงของราคา Bitcoin ที่ 3.7% ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาเหลือเพียง 1.27 ล้านล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ Ethereum สินทรัพย์ดิจิทัลอันดับที่ 2 ของโลกได้ทำระดับราคาต่ำว่า 2,000 ดอลลาร์อย่างน่าเหลือเชื่อและยังลดลงมากกว่า 6% ใน 24 ชั่วโมงโดยปัจจุบันซื้อขายอยู่ราว 1,979 ดอลลาร์
แม้จะไม่มีสาเหตุสำคัญเปิดเผยออกมาว่าเป็นเพราะสาเหตุใดกันแน่แต่ดูเหมือนว่าสินทรัพย์ดิจิทัลส่วนใหญ่จะลดลงตามราคาทองคำซึ่งได้ร่วงลงกว่า 1.57% ในช่วงเวลาเดียวกัน และสิ่งนี้อาจหมายความว่าสินทรัพย์ทั้งสองอย่างกำลังมีความสัมพันธ์ร่วมกันอย่างลึกซึ้ง
เมื่อวันที่ 14 เมษายน ธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ปรับตัวอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีก 0.25% ในการประชุมอัตราดอกเบี้ยเดือนพฤษภาคมที่กำลังจะมาถึง ทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำและ Bitcoin ได้เป็นอย่างดี
นักวิเคราะห์ชี้ว่าการลดลงพร้อมกันของราคาทองคำและ Bitcoin บ่งชี้ว่าตลาดอาจยังคงพยายามที่จำกัดการขึ้นของอัตราดอกเบี้ยครั้งแต่ไปส่งผลให้เกิดการชำระบัญชีมากกว่า 250 ล้านดอลลาร์ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม Bitcoin, Ethereum, Dogecoin และ XRP มีสัดส่วนมากกว่า 40% ของเงินที่ถูกชำระบัญชีตามข้อมูลจาก Coinglass ส่วนที่เหลือกระจัดกระจายไปทั่วสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมด