<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

แทบร้อง ! เจ้าของบ้านเช่า ถูกกฟน.เรียกเก็บค่าไฟ 5.3 ลบ. หลังผู้เช่าลอบใช้ไฟขุด Bitcoin

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อวันที่ 20 เมษายน รายการ “สถานีประชาชน” จากสถานีโทรทัศน์ ThaiPBS รายงานว่า เจ้าของอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ได้ถูกเรียกเก็บเงินเป็นมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท หลังจากผู้เช่าทำการลักลอบใช้ไฟหลวงในการขุด Bitcoin สร้างความเดือดร้อนให้แก่เจ้าของอาคาร

อาคารพาณิชย์แห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตบางบอน โดยผู้เช่าได้ดัดแปลงชั้น 3 ของอาคารให้เป็นห้องขุด Bitcoin และมีการดัดแปลงหม้อไฟพร้อมเชื่อมสายไปยังอุปกรณ์ ขุด Bitcoin โดยลากสายไฟหลักจากด้านนอกของอาคาร และมีสายไฟจำนวน 4 เส้นที่ถูกต่อเข้ากับสายไฟฟ้า ไม่ผ่านมิเตอร์ไฟฟ้า

ผู้เช่ารายนี้ ได้ขอเช่าอาคารหลังนี้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมปี 2564 และขอเช่าเป็นเวลา 2 ปี ด้วยเหตุผลที่ว่า ใช้เพื่อขายของออนไลน์และเก็บสต๊อกสินค้า ผู้ให้เช่าจึงปล่อยเช่าในราคา 12,000 บาท อย่างไรก็ตาม ผู้ให้เช่าไม่ได้เข้าไปดูในอาคารหลังจากนั้น และถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าไปดูเมื่อขอเข้าไปด้านใน

วันที่ 19 ธันวาคมปี 2565 การไฟฟ้านครหลวง ได้แจ้งให้เจ้าของอาคารทราบว่า ผู้เช่าอาคาร ได้ทำการเช่าอาคารเพื่อขุดเหมือง Bitcoin และลักใช้ไฟหลวง ก่อนจะถูกตำรวจบุกเข้ายึดคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่น ๆ เป็นของกลาง ในขณะที่เจ้าของอาคาร ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการแสดงเอกสารให้ตำรวจและการไฟฟ้านครหลวงว่า ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดในครั้งนี้แต่อย่างไร

การไฟฟ้านครหลวง ได้เรียกเก็บค่าไฟฟ้าย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคมปี 2564 ถึงวันที่ 9 มกราคมปี 2566 รวมเป็นเงินทั้งหมด 5.3 ล้านบาท และขอให้เจ้าของอาคารทำการชำระค่าไฟพร้อมดอกเบี้ยผิดนัดชำระภายในวันที่ 7 เมษายนปี 2566 ทำให้เจ้าของบ้านมองว่า การเรียกเก็บเงินในครั้งนี้ไม่เป็นธรรม เนื่องจากเจ้าของบ้านไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักลอบใช้ไฟหลวงในครั้งนี้

ในด้านของผู้เช่าอาคาร ผู้อยู่อาศัยในอาคารข้างเคียงกล่าวว่า ผู้เช่าจะเข้ามาที่อาคารนี้ในช่วงค่ำ และไม่ได้มาทุกวัน

การไฟฟ้านครหลวง ให้เหตุผลในที่ไม่สามารถเรียกเก็บเงินจากผู้เช่าได้ เนื่องจากตามระเบียบ การไฟฟ้านครหลวง จะต้องเรียกเก็บค่าไฟจากเจ้าของมิเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งในกรณีนี้คือเจ้าของอาคาร อย่างไรก็ตาม หากเจ้าของอาคารปฏิเสธที่จะจ่ายค่าไฟฟ้าจำนวนนี้ การไฟฟ้านครหลวง จะต้องฟ้องร้องต่อศาลเพื่อเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์ข้อเท็จจริงต่อไป

เจ้าของอาคาร ยังไม่สามารถติดต่อผู้เช่าอาคารได้ในขณะนี้ และให้กล่าวถึงสาเหตุที่ไม่ได้เปลี่ยนชื่อเจ้าของผู้ใช้ไฟฟ้าว่า หากผู้เช่าผิดข้อตกลง เจ้าของอาคารซึ่งเป็นผู้ให้เช่าสามารถขอให้มีการตัดไฟอาคารได้ ซึ่งเป็นการกดดันผู้เช่าในทางหนึ่ง

ที่มา: ThaiPBS