นาย Ray Youssef ได้ลาออกและให้คำมั่นว่าจะใช้หุ้น Paxful ของเขาเพื่อสร้าง Public Trust สำหรับลูกค้าทั้งหมด
เมื่อวันที่ 21 เมษายน นาย Ray Youssef CEO ของกระดานเทรด Paxful ได้ประกาศลาออกและสัญญาว่าจะทำให้ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
ในโพสต์นาย Youssef ได้กล่าวว่าเขา “จะบอกหุ้นส่วนตัวของเขา 99% ให้กับ Paxful ซึ่งเป็นสัดส่วนมากกว่า 45% ของบริษัท เพื่อให้เป็น Public Trust”
ศาลแต่งตั้ง Srinivas Raju เป็นผู้ดูแล
นาย Youssef แสดงความกังวลเกี่ยวกับทิศทางในอนาคตของกระดานเทรด Paxful เนื่องจากเขาไม่ไว้ใจให้ผู้ร่วมก่อตั้งของเขา “เข้าถึงหรือควบคุมเงินของผู้ใช้”
“ความโปร่งใสเป็นหนึ่งในหลักการสำคัญของ Bitcoin และเพื่อเป็นเกียรติแก่อุดมคตินี้ ผมต้องการที่จะทำให้สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับกระดานเทรด Paxful โปร่งใสมากที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้”
หลังจากหาหนทางไปต่อไม่ได้ พวกเขาได้ตกลงที่จะให้ Srinivas Raju เป็นผู้ดูแลคดีของกระดานเทรด Paxful ตลอดทั้งกระบวนการ
ตอนนี้นาย Raju มีอำนาจเบ็ดเสร็จและควบคุมการดำเนินงานและการจัดการของบริษัท และจะทำให้บริษัท Paxful กลับมาดำเนินการได้อีกครั้ง
เงินทุนลูกค้าประมาณ 4.5 ล้านดอลลาร์ยังคงเอาออกมาไม่ได้
แม้ว่านาย Youssef จะจัดการกับเงินจำนวน 88% ของผู้ใช้ที่นำออกมาไม่ได้ แต่เงินประมาณ 3.3% ของเงินลูกค้าทั้งหมดยังคงถูกเอาออกมาไม่ได้ ซึ่งคิดเป็นมูลค่าประมาณ 4.5 ล้านดอลลาร์
“ในขณะที่ผมลาออกจากตำแหน่ง CEO การจัดการแก้ไขปัญหาเงินของลูกค้ายังถือเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องแก้ไขเพื่อกู้ความน่าเชื่อถือของ Paxful กลับคืนมา”
ก่อนหน้านี้นาย Youssef ได้เสนอข้อตกลงให้ผู้ร่วมก่อตั้งของผมเพื่อซื้อหุ้นทั้งหมดของเขาใน Paxful ด้วยเงินเพียง 1 Satoshi โดยมีเงื่อนไขว่าผู้ร่วมก่อตั้งจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดที่จำเป็นเพื่อยกเลิกการระงับบัญชีที่เหลือ
แต่ผู้ร่วมก่อตั้ง Paxful ปฏิเสธข้อตกลงนี้
Public Trust จะถูกใช้ในการชดเชยเงินที่เหลือ
นาย Youssef พร้อมที่จะมอบหุ้นส่วนตัวจำนวน 99.9% ให้กับ Public Trust โดยกล่าวว่าเงินทุนจากหุ้นของเขาจะถูกใช้สำหรับลูกค้าทุกคน
“สิ่งที่เหลืออยู่จะมอบให้กับมูลนิธิ Built With Bitcoin โดยตรงเพื่อสร้างโรงเรียน”
เพื่อประโยชน์ของลูกค้า นาย Youssed กล่าวว่าเขาจะทำให้แน่ใจว่า Paxful Wallet จะยังคงใช้งานได้เป็นเวลาอย่างน้อย 2 ปี “เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าทุกคนจะสามารถเข้าถึงเงินของพวกเขาได้”
“ผมต้องการให้ Paxful เป็นตัวอย่างของบริษัท Bitcoin ที่ต้องเผชิญกฎระเบียบที่เข้มงวดของสหรัฐฯ และเป็นบริษัทที่ไม่เห็นแก่ตัวที่สามารถเอาชนะกฎระเบียบนั้นได้”
Source: CryptoSlate