เชื่อว่าถ้าหากใครเป็นนักเทรดหรือนักลงทุน ก็คงจะคุ้นเคยกับหนึ่งในนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกอย่าง Warren Buffett แต่เชื่อหรือไม่ว่านักลงทุนตัวท็อปของโลกจะอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็ก ๆ ราคาหนึ่งล้านบาทที่ซื้อมาเมื่อ 20 ปีก่อน ขับรถคันเก่า ๆ และใช้นาฬิกาเรือนละไม่กี่พันบาท
ในทุก ๆ ปี สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) มหาวิทยาลัยที่เข้าเรียนยากที่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ จะมอบโอกาสสุดพิเศษให้กับนักศึกษาที่อยากจะร่วมรับประทานอาหารและพูดคุยกับ Buffett เขียน essay ส่งไปหาเขา เพื่ออธิบายว่าทำไมถึงอยากร่วมทานมื้อค่ำกับนักลงทุนระดับโลก
แน่นอนว่านักศึกษาหลายคนต่างส่ง essay ไปหา Buffett เพื่อหวังว่าจะได้พบหน้านักลงทุนที่พวกเขานับถือเพียงสักครั้งในชีวิต และเมื่อ 10 ปีก่อน ก็มีคนไทยคนหนึ่งที่สามารถคว้าโอกาสในการพูดคุยร่วมกับ Buffett ไว้ได้สำเร็จ โดยคนคนนั้นคือ คุณทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้นำพรรคก้าวไกลในปัจจุบัน
คุณทิมเล่าว่า Warren Buffett เป็นนักธุรกิจและนักลงทุนที่เขานับถือเป็นอย่างมาก โดยในระหว่างการร่วมทานอาหารมื้อค่ำ คุณทิมพบว่า มหาเศรษฐีผู้ครอบครองเงินทองจำนวนมหาศาลนั้นเป็นคนที่อาศัยอยู่บ้านหลังเล็กมาตลอด 20 ปี ขับรถคันเก่า ๆ และใช้นาฬิกาคาสิโอธรรมดา ๆ ในขณะที่บริจาคเงินให้กับหน่วยงานการกุศลปีละหลายแสนล้านบาท
“บ้านเขาหลังละล้าน” คุณทิมกล่าวถึง Buffett “บ้านของมหาเศรษฐีอันดับสามของโลกที่มีเงินสามารถซื้อเกาะทั้งเกาะ คือบ้านเก่าหลังเดิมที่ซื้อมาเมื่อ 20 ปีที่แล้ว”
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ คือตัวตนของ Buffett ที่คุณทิม พิธา กล่าวยกย่อง และเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาใฝ่ฝันว่าจะได้มีโอกาสพูดคุยกับมหาเศรษฐีคนนี้สักครั้งหนึ่งในชีวิต และในที่สุด ความฝันของคุณทิมก็กลายเป็นจริง
ในช่วงที่คุณทิม พิธา อายุ 32 ปี เขาได้เป็นหนึ่งในนักศึกษา MIT จำนวน 10 คนที่มีโอกาสไปร่วมทานอาหารกับ Buffett ณ ร้านสเต๊กเล็ก ๆ ที่เมืองโอมาฮา รัฐเนแบรสกา บ้านเกิดของ Buffett โดยในขณะนั้นเป็นช่วงเวลาหลังจากที่คุณทิม พิธา ดูแลบริษัทผลิตน้ำมันรำข้าวมาเป็นเวลา 2 ปี
ในวันนั้น ที่นั่งของคุณทิมอยู่ตรงข้ามกับที่นั่งของ Buffett พอดี โดยในระหว่างมื้ออาหารค่ำ Buffett ได้ตั้งคำถามกับคุณทิมว่า “อีก 3 เดือนคุณจะเรียนจบจาก MIT แล้ว คุณจะกลับไปทำอะไรต่อ?”
คุณทิมให้คำตอบกลับไปว่า เขาจะกลับไปทำธุรกิจน้ำมันรำข้าวต่อ แล้วจากนั้น Buffett ก็กล่าวกับคุณทิมว่า “ดีมาก เพราะหลังจากนี้ไป โอกาสทางธุรกิจจะไม่ได้อยู่ที่ตะวันตก แต่โอกาสจะเป็นของฝั่งตะวันออก เพราะอาหารจะมีราคาสูงขึ้น”
แล้วหลังจากนั้น Buffett ก็กล่าวกับคุณทิมว่า “ต่อจากนี้ ใต้แผ่นดินของพวกคุณจะเป็นทองคำ”
การร่วมทานอาหารและพูดคุยกับ Buffett ในวันนั้น ถือเป็นอีกหนึ่งความทรงจำอันล้ำค่าสำหรับคุณทิมเลยทีเดียว
คุณทิมมองว่า Warren Buffett เป็นคนที่มีความสุขได้ในทุก ๆ วัน โดยที่ความสุขนั้นไม่ได้มาจากเงินทองมากมายที่เขามี เพราะถึงแม้ว่า Buffett จะมีเงิน แต่ความสุขของเขาคือความรู้สึกที่อยากจะตื่นมาทำงานที่ตนเองรัก และความสุขจากการนำเงินของตนไปมอบให้กับหน่วยงานการกุศล เพื่อใครหลาย ๆ คนที่ต้องการเงินมากกว่าเขา
ที่มา: อนาคตใหม่ – Future Forward, facebook