ตามรายงานการวิจัยของธนาคาร Standard Chartered ระบุว่า ช่วงเวลาอันย่ำแย่ของตลาด Crypto ได้สิ้นสุดลงแล้ว และสำหรับ Bitcoin (BTC) เหรียญคริปโตพี่ใหญ่ มีความเป็นไปได้ที่ราคาจะพุ่งแตะ 100,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้
การที่มูลค่าเพิ่มขึ้นจนสามารถแตะ 100,000 ดอลลาร์ได้นั้น อาจได้รับแรงหนุนจากปัจจัยหลายประการ รวมถึงวิกฤตภาคการธนาคารล่าสุดที่ช่วย “สร้างความเชื่อมั่นให้กับ Bitcoin ที่เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่จำกัดจำนวนและกระจายอำนาจ” ซึ่งธนาคารได้ระบุไว้ในรายงานวันจันทร์ที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์ Geoff Kendrick กล่าวว่า “Bitcoin เพิ่งได้รับประโยชน์จากสถานะการเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยและสามารถเก็บรักษามูลค่าได้ รวมไปถึงการเป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับใช้ในการโอนเงิน” ทั้งนี้ราคา Bitcoin ได้เพิ่มขึ้นมากถึง 65% นับตั้งแต่ต้นปี และเมื่อไม่นานมานี้ก็สามารถที่จะยืนเหนือระดับ 30,000 ดอลลาร์ได้สำเร็จในอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นครั้งแรก หลังจากตลาดหมีที่ยืดเยื้อนานนับปี
ปัจจุบัน Bitcoin มีการซื้อขายอยู่ที่ราคา 27,328 ดอลลาร์ ลดลง 1.2% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
รายงานของธนาคาร Standard Chartered ยังได้กล่าวถึง หนึ่งในปัจจัยที่สามารถช่วยผลักดันให้ราคาของ Bitcoin ไปถึง 100,000 ดอลลาร์ได้ ซึ่งก็คือสภาวะเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัว การผ่อนปรนนโยบายเงินเฟ้อของเฟด และการแยกตัวออกจากความสัมพันธ์กับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ของ Bitcoin
Standard Chartered คาดว่าส่วนแบ่งตลาดของ Bitcoin เมื่อเทียบกับเหรียญ crypto ตัวอื่น ๆ ทั้งหมดจะเพิ่มขึ้นกลับไปที่ช่วงระหว่าง 50-60% หลังจากการล่มสลายของ Silicon Valley Bank ในช่วงกลางเดือนมีนาคม ทำให้ส่วนแบ่งตลาดของ Bitcoin ร่วงลดลงไปถึงประมาณระดับ 40%
ยิ่งไปกว่านั้นรายงานยังได้พูดถึงการ halving ของ Bitcoin ที่ใกล้จะมา ซึ่งการ halving จะเป็นการทำให้รางวัลสำหรับการขุดบล็อกใหม่จะลดลงครึ่งหนึ่ง ในทุก ๆ 4 ปี ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ก็จะกลายเป็นอีกหนึ่งตัวขับเคลื่อนเชิงบวกสำหรับแนวโน้มราคาของ Bitcoin
ที่มา: coindesk