ตามรายงานใหม่ของสำนักข่าว Reuters, Christy Goldsmith Romero กรรมาธิการของ U.S. Commodity Futures Trading Commission (CFTC) ได้เรียกร้องให้ยุติการทำธุรกรรม Crypto ที่ไม่มีการระบุตัวตน เนื่องจากสิ่งนี้อาจนำไปสู่กิจกรรมผิดกฎหมาย
“อาชญากรกำลังหันไปใช้ Crypto เพื่อให้ทุนแก่อาชญากรไซเบอร์” Romero กล่าว
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ระดับสูง CFTC กล่าวว่า การที่รัฐบาลควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยความเข้มงวดมากขึ้น “คือสิ่งจำเป็น” ที่จะช่วยลดความเสี่ยงต่อความมั่นคงของประเทศ Romero กล่าวต่อไปว่า
“การฉ้อโกงเป็นจุดเด่นของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลที่มนุษย์อาจมองข้าม รัฐบาลและอุตสาหกรรมจำเป็นจะต้องจัดการกับสิ่งที่ทำให้ Crypto พัวพันกับการเงินที่ผิดกฎหมาย และนั่นคือสิ่งจูงใจของการไม่เปิดเผยตัวตน”
“เป็นไปได้ที่บริษัท Crypto ทุกแห่งจะต้องอยู่ให้ห่างจากผู้ให้บริการ mixer และเทคโนโลยีเสริมเพื่อช่วยในการปกปิดตัวตน” Romero กล่าวถึงเหตุการณ์การแบน currency mixer อย่าง Tornado Cash
สำนักข่าว Reuters ตั้งข้อสังเกตว่า สหรัฐฯ กำลังอ้างความกังวลด้านความมั่นคงของชาติเพื่อจัดระเบียบอุตสาหกรรม Crypto เนื่องจากรัฐสภาสหรัฐฯ กำลังพิจารณากฎหมายใหม่เพื่อจัดการกับคุณสมบัติของการไม่เปิดเผยตัวตนที่มีอยู่ในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล
ในขณะเดียวกัน Reuters ยังระบุด้วยว่า คณะกรรมการความมั่นคงทางการเงิน (FSB) กำลังพิจารณา “ร่างคำแนะนำระดับโลกในขั้นสุดท้าย” สำหรับกฎระเบียบของ Crypto ที่จะประกาศออกมาในเร็ว ๆ นี้
เป็นที่น่าสังเกตว่า การจัดระเบียบอุตสาหกรรม Crypto ยังคงดำเนินต่อไป แม้ว่าอาชญากรส่วนใหญ่จะยังคงนิยมใช้ระบบการเงินแบบดั้งเดิมในการฟอกเงิน โดยตามรายงานที่เผยแพร่โดยสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Office on Drugs and Crime) ระบุว่า เม็ดเงินกว่าล้านล้านดอลลาร์ถูกส่งผ่านระบบธนาคารแบบดั้งเดิมอย่างผิดกฎหมายในทุก ๆ วัน
รายงานล่าสุดจาก Forbes พบว่า ธนาคารยักษ์ใหญ่หลายแห่งรวมถึง Capital One และ Deutsche Bank ถูกปรับมูลค่ารวม 2.7 พันล้านดอลลาร์ในปี 2021 เนื่องจากละเมิดกฎหมายต่อต้านการฟอกเงิน ขณะที่รายงานจาก Chainalysis พบว่าการฟอกเงินที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรม Crypto คิดเป็นสัดส่วนน้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ของธุรกรรม Crypto ที่เกิดขึ้นทั้งหมดในปี 2021
ที่มา: dailyhodl