<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

‘Sell in may and Go Away’ คำนิยามนี้หมายถึงอะไร ? นักเทรดคริปโตควรกังวลหรือไม่ ?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

“Sell in may and Go Away” เป็นคำกล่าวยอดฮิตที่นักลงทุนในตลาดหุ้น Wall Street ของสหรัฐฯ รู้จักกันเป็นอย่างดี เนื่องจากประโยคนี้เป็นสัญญาณเตือนให้นักลงทุนทั่วโลกรู้ว่า ควรขายสินทรัพย์เสี่ยงเมื่อถึงฤดูร้อนเริ่มต้นขึ้นในเดือนพฤษภาคม และออกจากตลาดไปจนกว่าฤดูใบไม้ร่วงจะเริ่มต้นอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน

แม้ว่าคำกล่าวนี้จะเป็นที่นิยมอย่างมากในบรรดานักเทรดหุ้น แต่เชื่อว่านักเทรด Crypto คงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า การเคลื่อนไหวของตลาด Crypto มีความสัมพันธ์กับตลาดหุ้นในบางครั้ง เพราะถึงแม้ตลาดทั้งสองแห่งจะเป็นตลาดที่แตกต่างกัน แต่ทั้งคู่ก็ได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาคและภูมิรัฐศาสตร์ที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และผลักดันให้ราคาสินทรัพย์สูงขึ้นหรือลดลงในทางเดียวกัน

ดังนั้นในวันนี้ทางสยามบล็อกเชนจึงจะพาทุกคนมาดูไปพร้อมกันว่า “Sell in may and Go Away” มีโอกาสที่จะส่งผลกระทบต่อราคา Bitcoin และตลาด Crypto ในเดือนหน้าหรือไม่

ความหมายของ Sell in may and Go Away

“Sell in may and Go Away” เป็นประโยคที่กล่าวถึงกลยุทธ์การลงทุนยอดนิยมที่บ่งบอกว่านักลงทุนควรหลีกเลี่ยงช่วงฤดูร้อนในตลาดหุ้น โดยจากการสังเกตข้อมูลตลาดหุ้นในอดีต พบว่าตลาดหุ้นมีแนวโน้มที่จะให้ผลตอบแทนได้ต่ำกว่าปกติในช่วงฤดูร้อน เนื่องจากนักเทรดและนักลงทุนจำนวนมากหยุดพักผ่อน จนทำให้กิจกรรมการซื้อขายชะลอตัวลง

ดังนั้นนักลงทุนตลาดหุ้นจึงเชื่อว่า กลยุทธ์การขายสินทรัพย์ในเดือนพฤษภาคม และออกจากตลาดไปจนกว่าจะถึงเดือนพฤศจิกายน เป็นหนทางหนึ่งที่จะช่วยให้สามารถหลีกเลี่ยงช่วงผลตอบแทนตกต่ำได้

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่ากลยุทธ์นี้อาจใช้ไม่ได้ผลกับตลาดในทุก ๆ ปี เนื่องจากไม่มีการรับประกันว่าตลาดหุ้นจะเป็นไปตามรูปแบบเดิมทุกปี ฉะนั้นสิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาสถานการณ์แต่ละอย่าง และปรึกษากับที่ปรึกษาทางการเงินก่อนตัดสินใจลงทุนอย่างเหมาะสม

ผลกระทบต่อราคา Bitcoin ในเดือนพฤษภาคม

ข้อมูลสถิติจาก Coinglass แพลตฟอร์มรวบรวมข้อมูลในตลาด Crypto แสดงให้เห็นว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาผลตอบแทนที่ได้รับจาก Bitcoin ติดลบ 5 ครั้งในเดือนพฤษภาคม และในทางเดียวกัน เป็นที่น่าสังเกตว่าผลตอบแทนที่ได้รับจาก Bitcoin ในเดือนพฤษภาคมมักลดลงมากกว่าผลตอบแทนที่ได้รับในเดือนอื่น ๆ

ข้อมูลจาก Coinglass แสดงให้เห็นว่าผลตอบแทนที่ได้รับจาก Bitcoin ในเดือนพฤษภาคม 2021 เคยลดลงไปมากถึง -35.31% ในขณะที่จุดสูงสุดคือ -37.28% ซึ่งเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน 2022 หรือเรียกได้ว่าเป็นเดือนถัดจากพฤษภาคมเพียงเดือนเดียว

ข้อมูลผลตอบแทนรายเดือนของ Bitcoin ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จาก coinglass

อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนที่ได้รับจาก Bitcoin ในเดือนพฤษภาคมก็ไม่จำเป็นจะต้องติดลบเสมอไป เนื่องจากมีปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจส่งผลกระทบกับราคาได้เช่นกัน

“หากเราติดตามผลงานที่ผ่านมา Bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลชั้นนำอื่น ๆ ทำผลงานได้ค่อนข้างดีในเดือนพฤษภาคม ดังนั้นในกรณีนี้ คำกล่าวที่ว่า “Sell in may and Go Away” อาจไม่ได้ส่งกระทบกับตลาด Crypto มากนัก นอกจากนี้ การเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ในตลาด Crypto ยังขึ้นอยู่กับวัฏจักรของตลาด และอารมณ์ของนักลงทุน” Hitesh Malviya ผู้ก่อตั้ง IBC Capital กล่าว

แม้ข้อมูลจะแสดงให้เห็นว่าเดือนพฤษภาคมมักเป็นเดือนที่เลวร้ายสำหรับ Bitcoin แต่ Bitcoin ก็สามารถรอดพ้นเดือนพฤษภาคมของปีมาได้อย่างไม่ยากเย็น 

ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในระยะสั้น

กิจกรรมการซื้อขายลดลง และนักลงทุนอาจเทขาย Bitcoin

ผลกระทบจาก “Sell in may and Go Away” ต่อราคา Bitcoin ที่อาจเกิดขึ้นในระยะสั้นนั้นเกี่ยวข้องกับปัจจัยตามฤดูกาล โดยในอดีต ราคา Bitcoin แสดงความผันผวนตามฤดูกาล ซึ่งราคามักจะลดลงในช่วงฤดูร้อน และแนวโน้มนี้อาจเกี่ยวข้องกับกิจกรรมการซื้อขายที่ลดลงในช่วงฤดูร้อนเช่นเดียวกับตลาดหุ้น

เหตุการณ์นี้จะนำไปสู่การลดปริมาณอุปสงค์และผลักดันราคาให้ลดลง ดังนั้น ถ้าหากนักลงทุนส่วนใหญ่ปฏิบัติตามกลยุทธ์ “Sell in may and Go Away” ก็อาจมีแนวโน้มที่นักลงทุนจะเทขาย Bitcoin ในเดือนพฤษภาคม และอาจทำให้ราคาลดลงได้อีก

การขาย Bitcoin ของนักลงทุนในสหรัฐฯ

ผลกระทบระยะสั้นอีกประการนั้นเกี่ยวข้องกับ Tax Season เนื่องจากเดือนพฤษภาคมเป็นจุดสิ้นสุดของ Tax Season ในสหรัฐอเมริกา ดังนั้นนักลงทุนที่ค้างชำระภาษีก็อาจขาย Bitcoin เพื่อให้ครอบคลุมภาระภาษีของตน ดังนั้นอุปทานที่เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันนี้ก็อาจทำให้ราคา Bitcoin ลดลงชั่วคราว

นักลงทุนสถาบันอาจช่วยผลักดันให้ราคากลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง

หลังจากเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป เป็นไปได้ที่สถาบันต่าง ๆ อาจเข้ามาลงทุนใน Bitcoin เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเห็นว่าราคาของสินทรัพย์ลดลงในช่วงเดือนพฤษภาคม  แม้ว่าปัจจัยอื่น ๆ จะกดดันราคาให้ลดลงก็ตาม

บทสรุป

โดยสรุปแล้ว แม้ว่ากลยุทธ์การลงทุน  “Sell in may and Go Away” จะถูกนำมาใช้ในตลาดหุ้นมานานหลายทศวรรษ แต่ก็อาจไม่สามารถส่งผลกระทบโดยตรงกับ Bitcoin และตลาด Crypto ที่มีความผันผวนสูง

อย่างไรก็ตาม ผลกระทบในระยะสั้นที่อาจเกิดขึ้นกับตลาด Crypto คือ กิจกรรมการซื้อขายอาจลดลงในเดือนพฤษภาคม และนักลงทุนอาจเทขายสินทรัพย์เสี่ยงในเดือนนี้ รวมไปถึงแนวโน้มการขาย Bitcoin ของนักลงทุนในสหรัฐฯ เนื่องจากเดือนพฤษภาคมเป็นช่วงสิ้นสุด Tax Season แต่ท้ายที่สุดแล้วนักลงทุนสถาบันอาจช่วยผลักดันให้ราคากลับมาสูงขึ้นอีกครั้งก็เป็นได้

ที่มา: livemint