<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ตี 1 คืนนี้ ! จับตาการประชุม Fed : ตลาดคริปโตจะเป็นไปในทิศทางไหน ?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในขณะนี้ การประชุมของ Federal Open Market Committee (FOMC) กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ และการตัดสินใจขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับนโยบายอัตราดอกเบี้ยนั้นจะประกาศในเวลา 01.00 น. ของวันที่ 4 พฤษภาคม

การประชุม Fed ในครั้งนี้มีความสำคัญอย่างน่าจับตามองมากทีเดียว เนื่องจากตลาดอาจผันผวนได้ ถ้าหากผู้กำหนดนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามที่คาดการณ์ไว้ โดยในขณะนี้ Fed ยังคงไม่ส่งสัญญาณการหยุดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยชั่วคราวแต่อย่างใด

ดังนั้นในวันนี้ทางสยามบล็อกเชนจึงจะมาพาทุกคนไปดูพร้อมกันว่าผลการประชุม Fed ที่จะประกาศในช่วงกลางดึกคืนนี้จะมีประเด็นอะไรบ้างที่นักเทรดและนักลงทุนควรจับตามอง

แนวโน้มผลการประชุม

ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ The Financial Express ระบุว่า ตลาดพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed ในครั้งนี้ไว้ที่ 0.25% เพื่อคงอัตราเบี้ยไว้อยู่ที่ระหว่าง 5% – 5.25% ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2007 ทั้งนี้ถ้าหากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรายไตรมาสมีผลในวันพฤหัสบดีที่ 4 พฤษภาคม ก็จะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 10

“Fed อาจจะพยายามสร้างความสมดุลระหว่างภาวะเศรษฐกิจถดถอยกับอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงพุ่งสูงและควบคุมไม่ได้ ถ้า Fed ไม่ได้มีแผนจะเซอร์ไพรส์พวกเรา และอัตราดอกเบี้ยถูกปรับขึ้นอีก 0.25% ตลาดการเงินแบบดั้งเดิมน่าจะไม่ตอบสนองมากนัก เนื่องจากราคาได้ปรับขึ้นแล้ว” Ruslan Lienkha หัวหน้าฝ่ายการตลาดของ YouHodler กล่าว

“เราคาดว่า Fed จะเพิ่มอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในระหว่างการประชุมสัปดาห์นี้ ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์สิ้นสุดรอบของการขึ้นอัตราดอกเบี้ย จากข้อมูลของกลุ่ม CME มีความเป็นไปได้สูงที่ Fed จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยภายในสิ้นปี 2023 ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เห็นได้จากการผกผันของเส้นอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาล”

“ถ้าสถานการณ์เป็นไปตามนั้นจริง ตลาดได้กำหนดราคาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเป็นไปได้มากว่า Fed จะจัดการเรื่อง Soft Landing และตลาดการเงินจะยังคงเติบโตต่อไป แต่ถ้าในกรณีที่แผนงานมีการเปลี่ยนแปลง ความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรืออัตราเงินเฟ้อที่สูงเป็นระยะเวลานานนั้นจะเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะตลาดตกต่ำได้” Lienkha กล่าวเสริม

ในขณะเดียวกัน นักลงทุนทั่วโลกต่างก็ต้องการฟังคำวิจารณ์ของ Powell เพื่อจับทิศทางผลการประชุมของ Fed ทั้งนี้ตลาดคาดว่า Powell อาจสั่งให้ธนาคารกลางหยุดพักเพื่อวิเคราะห์ผลกระทบของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุด

วิกฤตภาคธนาคารยังคงเป็นภัยคุกคามต่อตลาด

ในปัจจุบัน อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง แต่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะทำให้การปล่อยสินเชื่อมีความเข้มงวดมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่ความกังวลของธนาคาร และอาจทำให้เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ร่วงดิ่งลง

Sunil Damania CIO ของ MarketsMojo กล่าวไว้ว่า “คำใบ้สำหรับการหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยชั่วคราวอาจจะทำให้นักลงทุนพอใจ แต่ในทางกลับกัน สัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งอาจบั่นทอนความรู้สึกของตลาด”

เมื่อราคาจัดการเพิ่มขึ้นในระดับหนึ่ง วิกฤตภาคการธนาคารที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ ยังคงเป็นภัยคุกคามต่อธนาคารกลางสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโดยรวม

“ไม่นานมานี้ SVB และ Signature Bank รวมถึงธนาคารอื่น ๆ ประสบกับปัญหาบางประการ และในตอนนี้ JP Morgan ก็ได้เข้าซื้อกิจการของ First Republic แล้ว อย่างไรก็ตาม ไม่มีการรับประกันว่าธนาคารอื่นจะไม่ประสบปัญหาที่คล้ายกันในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า”

“ธนาคารขนาดเล็กกำลังประสบปัญหาในการคงเงินฝากไว้ เนื่องจากลูกค้าต้องการเก็บเงินไว้กับธนาคารขนาดใหญ่ นอกจากนี้ เงินฝากที่หมุนเวียนและราคาของพันธบัตรเก่าที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ ก็กำลังสร้างปัญหาให้กับธนาคารขนาดเล็กในสหรัฐฯ” Damania กล่าว

“นอกจากนี้ สถานการณ์ในภาคอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ก็ค่อนข้างเปราะบาง และปัญหาใด ๆ ในภาคส่วนนี้ก็อาจก่อให้เกิดวิกฤตอีกครั้งในสหรัฐฯ ดังนั้นวิกฤตธนาคารในสหรัฐฯ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่ออารมณ์ตลาด” Damania กล่าวเสริม

ขณะนี้ตลาดทั่วโลกกำลังรอฟังความคิดเห็นจากประธาน Fed อย่าง Powell และเจ้าหน้าที่ Fed คนอื่น ๆ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ถ้าหาก Fed ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้ เป็นที่จับตามองว่า Fed จะงดขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม FOMC ครั้งต่อไปในวันที่ 13-14 มิถุนายนหรือไม่ ทั้งนี้ดัชนี CPI ของสหรัฐจะประกาศในวันที่ 10 พฤษภาคมที่กำลังจะมาถึง ก็ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่น่าจับตามองเช่นกัน

ที่มา: financialexpress