<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

งานวิจัยใหม่ชี้ โปรเจกต์ Crypto ระดับท็อป 1,000 กว่า 35.8% ไม่มีการอัปเดตในปีนี้

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

กว่า 1 ใน 3 ของโปรเจกต์ Crypto ระดับท็อป 1,000 โปรเจกต์ ไม่ได้มีการเผยแพร่บทความใหม่ลงบนเว็บไซต์ตั้งแต่เข้าปี 2023

จากงานวิจัยที่มีการรายงานเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมโดย Guerilla Buzz เอเจนซี่ด้านการตลาดบล็อกเชน รายงานว่า 35.8% ของโปรเจกต์ Crypto ระดับท็อป 1,000 โปรเจกต์ ไม่ได้มีการอัปเดตเว็บไซต์หรือเขียนบทความในปีนี้

นอกจากนี้ งานวิจัยยังพบว่า ในบรรดาโปรเจกต์ Crypto ระดับท็อป 1,000 โปรเจกต์นี้ มีเพียง 49.7% ที่ทำการโพสต์บทความมากกว่า 2 บทความในปีนี้

นักวิจัยจาก Guerilla Buzz ระบุว่า แรงบันดาลใจในการศึกษานี้ เกิดขึ้นหลังจากที่มีการสังเกตเห็นว่า “บริษัท Crypto หลายแห่งไม่ได้ให้ความสำคัญกับรากฐานทางการตลาดที่แข็งแกร่ง” โดยบริษัทเหล่านี้เลือกที่จะให้ความสำคัญกับการ “สร้างความตื่นเต้นในการขายโทเค็น” และการ “กระตุ้นให้มีการเติบโตในช่วงสั้น ๆ” แทนที่จะให้ความสำคัญกับการเติบโตในระยะยาว

งานวิจัยนี้ ใช้วิธีการตรวจสอบเว็บไซต์ของโปรเจกต์ Crypto ระดับท็อป 1,000 โปรเจกต์เพื่อดูว่ามีบล็อกหรือไม่ ประเมินบทความที่มีการเผยแพร่เมื่อปีที่ผ่านมา และตรวจสอบว่ามีโพสต์ที่ทำการโพสต์ในปีนี้จำนวนกี่โพสต์

โดยในบรรดาโปรเจกต์ Crypto ระดับท็อป 10 โปรเจกต์แรก Binance’s BNB Chain เป็นโปรเจกต์ที่มีการโพสต์บล็อกมากที่สุด ด้วยการมีบทความใหม่ถูกเผยแพร่ลงบนเว็บไซต์ถึง 59 บทความในปีนี้ ตามมาด้วย Polygon ที่มีการเผยแพร่บทความจำนวน 36 บทความ และ Cardano ที่ 12 บทความ

งานวิจัยยังพบด้วยว่า เว็บไซต์บล็อกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่โปรเจกต์ Crypto คือ Medium ซึ่งได้รับความนิยมในวงการ Crypto มาตั้งแต่ช่วงการเปิดขาย ICO เมื่อปี 2017 อย่างไรก็ตาม Medium อาจไม่ได้ตัวเลือกที่ดีที่สุดต่อโปรเจกต์ Crypto ต่าง ๆ ในระยะยาว

“การที่โปรเจกต์ Crypto พึ่งพาแพลตฟอร์ม Medium ทำให้โปรเจกต์เหล่านี้ ช่วยเพิ่ม Traffic ของ Medium และทำให้แพลตฟอร์มเติบโตมากกว่าที่โปรเจกต์จะเติบโต” นักวิจัยระบุ

“Medium มีความสามารถในการทำ SEO ที่ยอดเยี่ยมและมีอำนาจต่อโดเมนสูง ทำให้แพลตฟอร์มนี้เป็นตัวเลือกที่ง่ายที่สุดของเหล่าบริษัท Crypto ในการสร้างการเข้าถึงอย่างรวดเร็ว ซึ่งการมุ่งที่รายได้ในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม การใช้ Medium อาจไม่สามารถสร้างความยั่งยืนในระยะยาวได้”


ที่มา: Cointelegraph