<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Warren Buffett กล่าวลั่น “ยังมองไม่เห็นว่าจะมีเงินสกุลอื่นใดมาแทนที่ดอลลาร์ได้ในเร็ววันนี้”

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ไม่ได้เสี่ยงที่จะสูญเสียสถานะในการเป็นสกุลเงินสำหรับเงินทุนสำรองของโลก แต่การใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยของรัฐบาลสหรัฐฯ อาจส่งผลร้ายแรงตามมา Warren Buffett นักลงทุนชื่อดังและ CEO ของ Berkshire Hathaway กล่าวเตือน

“ดอลลาร์สหรัฐฯ ​ยังจะคงเป็นสกุลเงินสำรองหลักของโลก และผมไม่เห็นว่าจะมีสกุลเงินทางเลือกอื่นใดที่จะสามารถกลายมาเป็นสกุลเงินสำรองแทนเงินดอลลาร์ได้” เขากล่าวในระหว่างการประชุมประจำปีเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

Warren Buffett ไม่กังวลถึงความเสี่ยงของ “สกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ที่กำลังอ่อนค่าลง” หรือการที่ประเทศอื่นพึ่งพาเงินสกุลดอลลาร์น้อยลง อย่างไรก็ตาม เขาได้กล่าวแนะนำให้รัฐบาลสหรัฐฯ อย่าทำให้เงินดอลลาร์ถูกกัดกร่อนไปมากกว่านี้ ด้วยการใช้จ่ายมากเกินความจำเป็นและเติมเชื้อไฟให้แก่สภาวะเงินเฟ้อ

“พวกเราควรจะระมัดระวังมากขึ้น” เขากล่าว “มันยากมากที่จะได้เห็นการฟื้นตัว หลังจากปล่อยให้อะไรบางอย่างเกิดขึ้นและเมื่อผู้คนสูญเสียความศรัทธาในสกุลเงิน”

เขาย้ำว่า ผู้คนจะต้องเชื่อว่าเงินออมของพวกเขาจะสามารถรักษากำลังการซื้อส่วนใหญ่เอาไว้ได้เมื่อเวลาผ่านไป เพราะไม่งั้นผู้คนจะไม่อยากฝากเงินเอาไว้กับธนาคารหรือเก็บออมเป็นเงินบำนาญ

มัน “บ้าคลั่งที่จะเอาแต่พิมพ์เงินออกมา” เขากล่าว โดย Charlie Munger คู่หูของ Warren Buffett เสริมว่า สหรัฐฯ ไม่ควรเสี่ยงกับผลลัพธ์ที่อันตรายด้วยการใช้จ่ายเงินมากจนเกินไป

การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ก่อให้เกิดมาตรการล็อกดาวน์ การปิดตัว และการหยุดชะงักเป็นวงกว้างในช่วงปี 2020 ถึง 2021 และรัฐบาลสหรัฐฯ รีบเร่งพยุงเศรษฐกิจด้วยการส่งเช็คกระตุ้นเศรษฐกิจไปยังบ้านเรือนและให้ความช่วยเหลือธุรกิจต่าง ๆ

ผลลัพธ์ที่ตามมา ควบคู่กับการที่อุปทานลดลง บวกกับการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ทำให้ภาวะเงินเฟ้อพุ่งสูงที่สุดในรอบ 40 ปี แตะ 9.1% เมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยขึ้น 5% ภายในระยะเวลา 14 เดือน

การพุ่งขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ ได้กดดันทั้งผู้บริโภคและธุรกิจ สร้างความกังวลถึงความล้มเหลวของธนาคารและวิกฤตสินเชื่อ รวมไปถึงความกังวลว่าจะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจขึ้นในปีนี้


ที่มา: Insider