Pepecoin (PEPE) เหรียญมีมที่เพิ่งโด่งดังเป็นกระแสหลัก ได้เห็นมูลค่าที่ร่วงทรุดลงอย่างรวดเร็วกว่า 55% ในเวลาเพียงแค่ 4 วัน หลังจากให้ผลตอบแทนอย่างมหาศาลและเปลี่ยนสถานะของนักเทรดหลายคนให้กลายเป็นมหาเศรษฐีในชั่วข้ามคืน
PEPE ขยับขึ้นมาเป็นเหรียญคริปโตที่มีมูลค่าตลาดมากที่สุดเป็นอันดับที่ 45 ของตลาด Crypto ภายในระยะเวลา 3 สัปดาห์หลังจากการเปิดตัว และได้กลับเข้าสู่ช่วงขาลงเมื่อวันศุกร์ที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังจากถูก List บน Binance กระดานเทรดคริปโตที่ใหญ่ที่สุดของโลก
ก่อนที่ PEPE จะถูก Binance List ลงบนกระดานเทรด PEPE มีราคาซื้อขายอยู่ที่ 0.000002023 ดอลลาร์ ก่อนที่จะพุ่งแตะ All-Time High ที่ 0.000004354 ดอลลาร์หลังจากข่าวประกาศลิสต์นี้เริ่มแพร่สะพัดออกไป
เหรียญ PEPE มีมูลค่าร่วงลดลงถึง 56% หลังจากนั้น จากการที่นักลงทุนช่วงแรกทำการเทขายเหรียญเพื่อทำกำไร โดยในขณะนี้ PEPE มีราคาซื้อขายอยู่ที่ 0.000001948 ดอลลาร์ ร่วงลดลง 14% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ตามข้อมูลจาก CoinMarketCap
การร่วงลงของราคา PEPE ในครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อมูลค่าตลาดของ PEPE อย่างเห็นได้ชัด โดยในขณะนี้ มูลค่าตลาดของ PEPE อยู่ที่ระดับ 764 ล้านดอลลาร์ร่วงลดลงจาก 1.2 พันล้านดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ ซึ่งคิดเป็นมูลค่าตลาดที่ลดลงมากกว่า 400 ล้านดอลลาร์ภายในช่วงไม่กี่วัน
การร่วงลงของราคาในครั้งนี้ มีแนวโน้มว่าจะทวีความรุนแรงมากขึ้นจากการที่นักเทรดใช้กลยุทธ์เก็งกำไรในระยะสั้นและปิด Position สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่เปิดขึ้นนับตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ในโพสต์ทวีตของ Santiment เมื่อวันจันทร์ แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูล On-chain ระบุว่า จำนวนการฝาก Ethereum ที่มากขึ้น อาจเป็นผลมาจากการที่นักเทรด PEPE แปลงผลกำไรของพวกไปเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำ (ในกรณีนี้คือ ETH) เพื่อถือครองเหรียญที่มีศักยภาพเติบโตในระยะยาว โดยข้อมูลแสดงให้เห็นว่า กระเป๋าเงินของกระดานเทรดที่มีการโต้ตอบบนเครือข่าย Ethereum ได้พุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดนับจากเดือนพฤศจิกายนปี 2021
จากการร่วงลงของราคาเหรียญ PEPE ผู้สังเกตการณ์มองว่าโทเค็นนี้ได้เดินรอยตามเหรียญมีมรุ่นพี่อย่าง Dogecoin และ Shiba Inu ซึ่งร่วงลงเป็นอย่างรุนแรง หลังจากพุ่งแตะระดับ ATH อันมีสาเหตุมาจากการที่ความนิยมในเหรียญมีมเหล่านี้เริ่มจืดจาง
นอกจากนี้ การที่ PEPE ขาด utility และมูลค่าที่แท้จริง ซึ่งสองสิ่งนี้ได้หนุนความเชื่อที่ว่า การพุ่งขึ้นของราคาของเหรียญมีมตัวนี้เป็นเพียงสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว และกระตุกต่อมความคิดของเหล่านักลงทุนว่า ควรทำการลงทุนต่อดีหรือไม่
ที่มา: CryptoPotato