<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

สับไม่ยั้ง ! อดีตทนายความของ SEC กล่าวว่า ‘Tether เป็นดอลลาร์เก๊’ เพราะขาดคุณสมบัติของสกุลเงิน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

John Reed Stark อดีตทนายความของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) ได้ออกมากล่าวหาว่า Tether เป็น “ของปลอม” พร้อมแสดงความกังวลเกี่ยวกับเหรียญ Stable Coin เบอร์หนึ่งอย่างจริงจัง

Stark วิจารณ์ Paolo Ardoino CTO ของ Tether ผ่านโพสต์ทวีตชุดหนึ่ง เนื่องจากเขาตั้งข้อสังเกตว่า Bitfinex ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่เบื้องหลัง Tether นั้นมีการดำเนินงานที่ไม่โปร่งใส

จากนั้น Stark ก็ชี้ให้เห็นว่าการใช้งาน Tether นั้นมีความเสี่ยง เนื่องจากขาดการกำกับดูแล เช่น การตรวจสอบ และการประกันภัย ตามมาตรการกำกับดูแล

ทั้งนี้ Stark ได้กล่าวเพิ่มเติมโดยระบุว่า การที่ Tether ใช้รายงานการรับรองเพื่อเป็นหลักฐานความมั่นคงทางการเงิน เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด และเป็นสิ่งที่ผิดจรรยาบรรณ

“จากประสบการณ์ของผม รายงานการรับรองไม่ใช่มาตรฐาน ไม่ใช่ศัพท์บัญญัติที่ถูกต้องตามกฎหมาย และ ‘ไม่ใช่สิ่งของด้วยซ้ำ’ หลักฐานการรับรองควรเป็นสิ่งพื้นฐานที่ถูกต้องตามกฎหมาย รายงานการรับรองและ IMHO นั้นผิดจรรยาบรรณและทำให้เกิดความเข้าใจผิด” Stark กล่าวบน Twitter

เป็นที่น่าสังเกตว่าคำกล่าวของ Stark สืบเนื่องมาจากการที่ก่อนหน้านี้ Ardoino อ้างถึงรายงานการรับรองดังกล่าวว่าเป็นหลักฐานยืนยันความสามารถในการชำระหนี้ของ Tether

นอกจากนี้ Stark ยังใช้ประเด็นเกี่ยวกับคำกล่าวของ Ardoino ที่ระบุว่า “Tether มีมูลค่าเทียบเท่ากับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ” โดย Stark กล่าวว่า “Tether เป็น ของปลอม” พร้อมชี้ให้เห็นว่า Tether หรือที่มักเรียกกันว่า USDT พยายามเลียนแบบเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ขาดคุณสมบัติของสกุลเงิน

“Tether พยายามปลอมตัวเป็นเงินดอลลาร์ หรือแม้กระทั่งพยายามให้ตัวเองดูเหมือนดอลลาร์สหรัฐด้วยการติดป้ายตัวเองว่าเป็น USDT แต่ Tether ไม่ใช่เงินดอลลาร์ และไม่มีลักษณะเฉพาะใด ๆ ตามบรรทัดฐานเหล่านั้น ทั้ง Tether และ IMHO ก็เป็นนักก็อปกันทั้งนั้น” Stark ให้ความเห็น

ในอีกด้านหนึ่ง ทางฝั่งของ Ardoino ยังไม่ได้ออกมาตอบสนองต่อคำกล่าวหาล่าสุดของ Stark แต่อย่างใด

การกล่าวหา Tether อย่างรุนแรงในครั้งนี้ เกิดขึ้นในขณะที่ Tether รายงานผลกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 1 ปี 2023 ที่ 1.5 พันล้านดอลลาร์ พร้อมกับพิสูจน์ให้ทุกคนในโลก Crypto เห็นถึงการเติบโตของ Market Cap และปริมาณเงินทุนสำรอง

ที่มา: U.Today