<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ดราม่าสนั่น ! ชุมชนคริปโตรุมถล่ม Ledger หลังบริษัทประกาศเปิดตัวบริการ “กู้คืน Seed Phrase”

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

บรรดาเจ้าของกระเป๋าเงิน Ledger รวมไปถึงสมาชิกหลายคนของชุมชน Crypto เชื่อว่าบริการกู้คืน Seed Phrase ของ Ledger เป็นความคิดที่ “ห่วยแตก”

ขณะนี้ชุมชน Crypto จำนวนมากกำลังรุมถล่ม Ledger อย่างหนัก เพื่อแสดงความไม่พอใจผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย หลังจากที่ Ledger ประกาศเปิดตัวบริการสมัครสมาชิกสำหรับกระเป๋าเงิน hardware crypto wallet หรือที่เรียกว่า Ledger Recover

Ledger ระบุว่าบริการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ “ป้องกัน” ในกรณีที่ผู้ใช้ลืมรหัส Seed Phrase  

Ledger Recover เป็นบริการสมัครสมาชิกที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเสริมการป้องกัน private key ของตนเองเพิ่มขึ้นอีกชั้น โดยบริการนี้จะใช้เทคนิคที่ทำให้ Seed Phrase ของผู้ใช้แบ่งออกเป็น 3 ส่วน และส่วนต่าง ๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ โดย “Seed Phrase แต่ละส่วนจะถูกส่งไปยังหน่วยงานภายนอกที่แตกต่างกัน”

เมื่อชิ้นส่วน Seed Phrase ทั้ง 3 ส่วนนี้ถูกรวมเข้าด้วยกัน และถูกถอดรหัสแล้ว จะสามารถใช้ประกอบกันเพื่อสร้าง Seed Phrase ขึ้นมาใหม่ได้

ทั้งนี้ทางบริษัท Ledger กล่าวว่า บริการ Ledger Recover เป็นการสมัครสมาชิกเพิ่มเติมสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการสำรองข้อมูล Seed Phrase แบบลับ ๆ

“คุณไม่จำเป็นต้องสมัครใช้บริการนี้ และคุณยังสามารถจัดการกับ Seed Phrase ของคุณเองได้เหมือนเดิม” บริษัท Ledger กล่าวอธิบาย

อย่างไรก็ตาม แนวคิดเกี่ยวกับบริการ Ledger Recover นั้นทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยและชุมชน Crypto รู้สึกโกรธเคืองเป็นอย่างมาก

Mudit Gupta หัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของข้อมูลจาก Polygon Labs กล่าวว่า “เป็นความคิดที่แย่มาก อย่าเปิดใช้บริการนี้เลย”

Gupta อธิบายเพิ่มเติมบน Twitter ของเขาว่า “ปัญหาคือส่วนของ private key ที่เข้ารหัส จะถูกส่งไปยังบริษัทต่าง ๆ 3 แห่ง และพวกเขาก็สามารถสร้าง private key ของคุณขึ้นมาใหม่ได้”

หลังจากนั้น Changpeng Zhao ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Binance ได้มาแสดงความคิดเห็นในโพสต์ของ Gupta ไว้ด้วยว่า “Seed สามารถลบออกจากอุปกรณ์ได้แล้วใช่ไหม ฟังดูขัดกับที่ความคิดว่า ‘key ของคุณจะไม่มีวันถูกลบหายออกไปจากอุปกรณ์'”

Chris Dunn นักลงทุน Bitcoin และนักอัดรายการ podcast ได้ออกมากล่าวว่า “ในตอนแรก Ledger ได้เปิดเผยที่อยู่ไปรษณีย์ หมายเลขโทรศัพท์ และที่อยู่อีเมลของลูกค้าของพวกเขา และตอนนี้พวกเขาก็ใส่ back door ลงใน seed phrases ของผู้ใช้เป็นที่เรียบร้อย ถึงเวลาบอกลา Ledger แล้วล่ะ”

Dunn อ้างอิงถึงเหตุการณ์ที่ Ledger เคยเปิดเผยข้อมูลของผู้ใช้เมื่อปี 2020 และในขณะเดียวกัน DCinvestor นักลงทุน Crypto ชื่อดัง ก็อ้างถึงการรั่วไหลของข้อมูลก่อนหน้านี้ที่ Ledger ทำให้ผู้ใช้ต้องเผชิญกับความเสี่ยงอย่างหนัก

“ขอเตือนว่าเมื่อหลายปีก่อน Ledger เคยทำให้ข้อมูลส่วนตัว ทั้งชื่อและที่อยู่บ้านของลูกค้าทั้งหมดรั่วไหลออกไปผ่านการละเมิดการเข้าถึงข้อมูล และสิ่งสุดท้ายที่คุณต้องการให้อยู่บนเซิร์ฟเวอร์ของพวกเขาก็คือ private key ของคุณ” DCinvestor กล่าว

Alistair Milne นักลงทุนและผู้ประกอบการธุรกิจเกี่ยวกับ Bitcoin พยายามชี้ให้ทุกคนเห็นว่า บริการล่าสุดของ Ledger เป็นการบ่อนทำลายจุดยืนด้านการดูแลสินทรัพย์ด้วยตนเองผ่านกระเป๋าเงินแบบ hard wallet

“แน่นอนว่าเมื่อคุณสามารถใช้บริการใหม่ของ Ledger และส่งมอบ private key ที่ควบคุมทรัพย์สินของคุณ พร้อมกับสำเนา ID และข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ ของคุณได้ แล้วทำไมต้องใช้กับกระเป๋าเงิน hardware ตั้งแต่แรกล่ะ?” Milne กล่าว

นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 Ledger ได้กลายเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกที่โดดเด่นด้านผลิตภัณฑ์กระเป๋าเงินดิจิทัลแบบ hardware wallet แต่ดูเหมือนว่าในขณะนี้ผู้ใช้งานจำนวนมากจะทยอยหันเหความสนใจไปยังผลิตภัณฑ์ของบริษัทอื่น อีกทั้งยังมีผู้ใช้ Ledger บางส่วนที่กำลังรวมตัวกันเพื่อเตรียมการดำเนินคดีกับทางบริษัทอีกด้วย

ที่มา: cointelegraph