Balaji Srinivasan อดีต CTO ของ Coinbase คาดการณ์ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะยึด Private Key จากกระเป๋าเงินดิจิทัลหลายล้านใบผ่าน iPhone และอุปกรณ์ Android โดยอ้างว่าบริษัทเหล่านี้มีการเข้าถึงระยะไกลไปยังชิ้นส่วนของ Private Key ผ่านเฟิร์มแวร์ ‘backdoor’ และที่เก็บข้อมูลบน Cloud
หากใครยังไม่ทราบ Srinivasan ได้รับความน่าเชื่อถือจากคำเตือนล่วงหน้าเกี่ยวกับ COVID-19 แม้ว่าเขาจะเขาสูญเสียความน่าเชื่อถือบางส่วนหลังจากแพ้การเดิมพันว่า Bitcoin จะแตะ 1 ล้านดอลลาร์แต่ดูเหมือนว่าการคาดการณ์ถึงการยึดสินทรัพย์ส่วนตัวนอกกฎหมายนั้นจะมีที่มาที่ไปอย่างลึกซึ้ง
Backdoor หมายถึง รูรั่วของระบบหรือซอฟแวร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่นักพัฒนาระบบจงใจสร้างทิ้งไว้เพื่อให้ซอฟแวร์คอยส่งข้อมูลจากอุปกรณ์ที่มันติดตั้งอยู่กลับไปหาโปรแกรมเมอร์ผู้พัฒนาหรือเป็นการเปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกสามารถเข้าถึงข้อมูลภายในได้
ก่อนหน้านี้ Nostradamus เรียกยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีเหล่านี้ว่าเป็น “ความเสี่ยงเชิงระบบ” ต่ออุตสาหกรรมคริปโต
คำทำนายของ Balaji เกิดขึ้นท่ามกลางความกลัวของ Ledger Recovery
คำทำนายของเขาขัดแย้งกับความกลัวที่เพิ่มขึ้นของ Ledger Recovery ซึ่งถือเป็นสิทธิในการเข้าถึง Private Key โดยยักษ์ใหญ่ด้านการผลิตฮาร์ดแวร์เปิดตัวการอัปเกรดเฟิร์มแวร์สำหรับ Hardware Wallet ทั้งหมด (ยกเว้น Nano S) โดยจะติดตั้งโค้ดสำหรับการกู้คืนสินทรัพย์ใหม่จากระยะไกลเต็มรูปแบบ
ทั้งนี้บริษัทอ้างว่าบริการของตนนั้นปราศจากความเสี่ยง แม้ว่าจะเป็นครั้งแรกที่อุปกรณ์บัญชีแยกประเภทจะมีรหัสที่เปิดใข้งานบัญชีแยกประเภทจากแหล่งอื่น
Balaji คาดการณ์ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ อาจต้องการให้ Apple และ Google สร้าง backdoor เพิ่มเติมเพื่อให้รัฐบาลเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งอาจคล้ายกับคำสั่งผู้บริหาร 6102 เมื่อรัฐบาลสหรัฐฯ สั่งห้ามการเป็นเจ้าของทองคำโดยเอกชน
แท้จริงแล้ว Balaji ไม่คิดว่ารัฐบาลจำเป็นต้องกล่าวหาใครบางคนว่าก่ออาชญากรรมก่อนที่จะยึดทรัพย์สินของพวกเขา ในสหรัฐอเมริกาการบังคับใช้กฎหมายสามารถใช้แนวทางปฏิบัติที่เป็นที่ถกเถียงกันซึ่งเรียกว่าการริบทางแพ่งเพื่อยึดทรัพย์สินที่สงสัยว่าถูกใช้ก่ออาชญากรรมแม้ว่าเจ้าของปัจจุบันของทรัพย์สินจะไม่ได้ถูกกล่าวหาว่าก่ออาชญากรรมก็ตาม
ความกลัวต่อคำสั่งฝ่ายบริหาร 6102
จากข้อมูลของ Balaji บริษัทเทคโนโลยีไม่น่าจะปิดกั้นการยึดของรัฐบาลในนามของลูกค้า เขากล่าวถึงมาตรการคว่ำบาตรที่ยุโรปและสหรัฐฯ ส่วนใหญ่บังคับใช้กับรัสเซียในปี 2022 ซึ่งในตอนแรกได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวาง แม้แต่บริษัทอย่าง McDonald’s, Coca-Cola และ Starbucks ก็ถอนตัวออกจากรัสเซียโดยสมัครใจ
แต่ทั้งนี้การกระทำของ Tim Cook CEO ของ Apple อาจเป็นข้อยกเว้นเนื่องจาก Apple ปฏิเสธที่จะสำรวจ iCloud สำหรับเนื้อหาการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก แม้ว่าแผนดังกล่าวจะช่วยให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายจับผู้ล่วงละเมิดเด็กได้ ซึ่งพวกเขาต้องได้รับอนุญาตให้ตรวจสอบไฟล์อื่น ๆ บน iCloud เสียก่อน
มีวิธีแก้ไขปัญหานี้หรือไม่?
Balaji กล่าวว่าการเปลี่ยนระบบปฏิบัติการเป็น Linux อาจเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด แต่วิธีแก้ไขปัญหาอื่น ๆ ที่เป็นไปได้ ได้แก่ การหลีกเลี่ยงอุปกรณ์ที่ใช้ iOS หรือ Android และจัดเก็บเนื้อหาดิจิทัลบนอุปกรณ์ที่ไม่มีช่องว่างซึ่งไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต
อีกทั้งยังได้แนะนำว่า Hardware Wallet ไม่ควรมีการสำรองข้อมูลบน Cloud หรือบริการกู้คืนประเภทใด ๆ เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง
อย่างไรก็ตามปัจจุบันดูเหมือนว่า Ledger จะ “จะใช้ open-source code ของเราต่อไป จนกว่าเราจะไปถึงระดับที่ใกล้เคียงกับ Raspberry Pi” ซึ่งจะเลื่อนการเปิดตัว Ledger Recover หลังจากต้องประสบปัญหาในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว