<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ทำไมคุณถึงไม่ควรเก็บ Crypto ไว้ในกระดานเทรด และนี่คือเหตุผล

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

จากเหตุการณ์การล่มสลายของกระดานเทรดต่าง ๆ ทั่วโลกไม่ว่าจะเป็น Mt. Gox, FTX หรือ Zipmex ที่ไม่สามารถเปิดให้ลูกค้าถอนเงินหรือสินทรัพย์ดิจิทัลทัลออกจากกระดานเทรดคริปโตได้ ส่งผลให้ปัจจุบันนักลงทุนเริ่มมองหา Hardware Wallet หรือแนวทางการเก็บสินทรัพย์ต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น

อย่างที่ทราบกันดีกว่ากระดานเทรดคริปโตเป็นแพลตฟอร์มที่คุณสามารถแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเงินสดได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่ากระดานเทรดจะมีวัตถุประสงค์เพื่อการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลแต่ก็สามารถเป็น Wallet ได้ในเวลาเดียวกัน

อย่างไรก็ตามการเก็บเงินไว้บนกระดานเทรดนาน ๆ นั้นกลับไม่ปลอดภัยอย่างที่คิดเนื่องจากตามข้อมูลของแพลตฟอร์มวิเคราะห์บล็อกเชนได้เปิดเผยว่าเงินมากกว่าหลายพันล้านดอลลาร์ได้หายไปจากกระดานเทรดและแพลตฟอร์ม DeFi อื่น ๆ จากการโจมตีหลายประเภท

Exchanges ประสบกับรูปแบบต่างๆ ของการโจมตีทุกครั้ง ซึ่งที่พบบ่อยที่สุดคือการแฮ็ก อาชญากรสามารถแฮ็กเข้าสู่การแลกเปลี่ยนและเข้าถึงเงินทุนที่ถือโดยการแลกเปลี่ยนซึ่งส่วนใหญ่เป็นของลูกค้าไม่ใช่ตัวแพลตฟอร์มเอง ซึ่งหมายความว่าเป็นเงินทุนของคุณที่จะประสบกับการโจมตีดังกล่าว

ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2023 เพียงอย่างเดียว เงินประมาณ 950 ล้านดอลลาร์สูญเสียไปจากการแฮ็กและการหลอกลวง แม้ว่าตัวเลขนี้จะลดลงจากปี 2022 ที่หายไป 1.3 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรก แต่ก็ยังเป็นจำนวนที่มีนัยสำคัญ สิ่งนี้ต้องใช้ความระมัดระวังสูงสุด

น่าเสียดายที่คุณไม่สามารถคาดเดาได้ว่าการแลกเปลี่ยนครั้งต่อไปจะถูกโจมตี ดังนั้นจึงเป็นการดีกว่าที่จะไม่เก็บ crypto ที่หามาได้ยากของคุณไว้ในนั้น แม้แต่การแลกเปลี่ยนที่มีการป้องกันมากที่สุดก็อาจถูกโจมตีได้เนื่องจากแฮ็กเกอร์ยังคงอัปเกรดเทคโนโลยีของตนต่อไป

ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2023 เพียงอย่างเดียวมีเงินมากกว่า 950 ล้านดอลลาร์สูญเสียไปจากการถูกแฮกและหลอกลวงแม้ว่าตัวเลขนี้จะลดลงกว่าปี 2022 ที่ 1.3 ล้านดอลลาร์แต่ก็ยังถือเป็นจำนวนตัวเลขที่สูงเป้นอย่างมาก

หากคุณกำลังอยากที่จะรู้ว่าเรายังควรเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลไว้บนกระดานเทรดคริปโตอยู่หรือไม่ ก็คงต้องดูปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ประกอบไปด้วย เช่น

การปิดตัวลงของกระดานเทรด

แม้ว่ากระดานเทรดจะไม่ได้รับการโจมตีจากแฮกเกอร์ก็อาจมีแนวโน้มที่จะปิดตัวลงเองได้ โดยมีเคสตัวอย่างได้แก่ การเสียชีวิตของ CEO ของ QuadrigaCX ที่รับผิดชอบจัดการ Private Key ของลูกค้าที่ถือครองเงินไว้รวมมากกว่า 190 ล้านก็ไม่สามารถกู้คืนเงินเหล่านี้ได้ และปัจจุบันลูกค้าทั้งหมดยังไม่มีโอกาสได้กู้คืนเงินของพวกเขา

แม้ว่านี่จะเป็นเหตุการณ์ที่น่าเศร้าอย่างมากแต่ไม่ใช่แค่ความตายเท่านั้นที่จะทำให้เงินของคุณไม่ปลอดภัยอีกต่อไปเนื่องจากยังมีการ Rug Pull หรือปิดโปรเจกต์หนีหอบนำเงินของนักลงทุนออกไปและไม่สามารถเรียกคืนเงินดังกล่าวได้แม้แต่บาทเดียว

อีกทั้งยังมีเหตุการณ์ของกระดานเทรด FTX ที่ลูกค้าแห่ถอนเงินจำนวนมากจนกระทั่งกระดานเทรดจำเป็นต้องปิดตัวลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากสภาพคล่องของบริษัทเข้าสู่สภาวะวิกฤตอย่างหนัก

สิ่งที่คุณควรทำ

แทนที่จะเก็บ Cryptocurrency ของคุณไว้บนกระดานเทรดเพียงแค่ถือไว้ใน Wallet กลับเป็นเรื่องที่ปลอดภัยมากกว่า ทั้งนี้ Wallet ดังกล่าวควรเป็นคุณที่เป็นเจ้าของ Private Key ดังกล่าวหากไม่ใช่แล้วล่ะก็จงจำไว้ว่า “not your key, not your coins” 

ทั้งนี้ Hardware Wallet ที่ได้รับความนิยมอย่างมากได้แก่ Exodus หรือ Ledger Nano S โดยคุณสามารถคัดลอก Private Key และเก็บไว้ในที่ปลอดภัยได้เพื่อให้สามารถกู้คืนกระเป๋าเงินหากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น

โดยทั่วไปแล้วนักลงทุนมักเขียน Private Key ไว้บนกระดาษและเก็บไว้เนื่องจากจะทำให้แฮกเกอร์ที่เชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ตไม่สามารถขโมย Private Key ดังกล่าวไปได้นอกเสียจากคุณถ่ายรูปมันเก็บไว้บนมือถือ

อย่างไรก็ตามนี่เป็นเหตุผลเบื้องต้นที่ไม่ควรเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลของคุณไว้บนกระดานเทรดเว้นแต่ว่าคุณกำลังซื้อขายสินทรัพย์อยู่ตลอดเวลา