<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ราคาหุ้น Nvidia พุ่งกว่า 26% เนื่องจากความต้องการชิป A.I. สูงขึ้น : หรือยุคการ์ดจอถูกกำลังมา ? 

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Nvidia รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2024 ในวันพุธที่ผ่านมา โดยสิ้นสุดเดือนเม.ย. บริษัทมีรายรับเพิ่มขึ้น 7.19 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับ 6.52 พันล้านดอลลาร์สูงกว่าที่คาดการณ์และมีกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 1.09 ดอลลาร์ต่อหุ้นสูงกว่าคาดการณ์ที่ 92 เซนต์ ส่งผลทำให้ราคาหุ้น NVIDIA ปรับตัวเพิ่มขึ้น 26% หลังจากรายงานผลประกอบการ

Nvidia กล่าวว่า คาดว่ายอดขายในไตรมาสปัจจุบันนั้นอยู่ที่ราวๆ 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ บวกลบ 2% ซึ่งสูงกว่าที่ Wall Street ประมาณการไว้ที่ 7.15 พันล้านดอลลาร์กว่า 50%

การซื้อขายหุ้น Nvidia นอกเวลาทำการมีราคาเพิ่มขึ้นมากถึง 109% ในปี 2023  โดยส่วนใหญ่ได้รับแรงหนุนจากการมองโลกในแง่ดี ซึ่งเกิดจากตำแหน่งผู้นำในตลาดชิป A.I. ของบริษัท โดยซีอีโอของ Nvidia กล่าวว่า บริษัทได้สังเกตเห็นถึง “ความต้องการที่เพิ่มขึ้น” สำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่ม Data Center ของบริษัท

กลุ่ม Data Center ของ Nvidia รายงานยอดขายอยู่ที่ 4.28 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ 3.9 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบแบบปีต่อปี ซึ่งทาง Nvidia กล่าวว่าประสิทธิภาพดังกล่าวได้รับแรงหนุนจากความต้องการชิป GPU จากผู้บริการระบบคลาวด์ รวมถึงบริษัทอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ ซึ่งใช้ชิป Nvidia ในการฝึกอบรมและปรับใช้แอปพลิเคชัน AI เช่น ChatGPT ของ OpenAI

ข้อมูลจากกลุ่ม Data center ของบริษัทยังแสดงให้เห็นด้วยว่า ตอนนี้ชิป AI กำลังเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับผู้ให้บริการคลาวด์และบริษัทอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ตาม กลุ่มธุรกิจเกมของ Nvidia ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์การ์ดจอสำหรับคอมพิวเตอร์ PC ของผู้บริโภครายย่อย กลับมียอดขายลดลง 38% อยู่ที่ $2.24 พันล้านเหรียญ แต่ยังคงสูงกว่าคาดการณ์ที่ $1.98 พันล้านเหรียญ ซึ่ง Nvidia กล่าวว่าการลดลงเกิดมาจากสภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่ชะลอตัวลง และการเพิ่มขึ้นล่าสุดของผลิตภัณฑ์ GPU จำนวนมากในอุตสาหกรรมเกม

กลุ่มธุรกิจยานยนต์ของ Nvidia ซึ่งรวมถึงชิปและซอฟต์แวร์สำหรับการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ ได้เติบโตขึ้น 114% ต่อปี แต่ยังเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มียอดขายต่ำที่สุดและมีรายได้รวมต่ำกว่า 300 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสนั้น

กำไรสุทธิของบริษัทสำหรับไตรมาสที่ 1 ของปีนี้อยู่ที่ 2.04 พันล้านเหรียญ หรือ82 เซนต์ต่อหุ้น เทียบกับ 1.62 พันล้านเหรียญ หรือ 64 เซนต์ในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 

ที่มา : CNBC