<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ธนาคารระดับโลก JPMorgan เชื่อราคา Bitcoin จะพุ่งแตะระดับ 45,000 ดอลลาร์ในอีกไม่กี่เดือน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ราคา Bitcoin และเหรียญ Crypto ตัวอื่น ๆ  ต่างสูญเสียโมเมนตัมที่เป็นขาขึ้น เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ประกอบกับผลการดำเนินงานที่ย่ำแย่ของธนาคารในช่วงอดีตที่ผ่านมา

ปัจจุบัน Bitcoin มีการซื้อขายอยู่ที่ต่ำกว่าระดับ 27,000 ดอลลาร์ ในขณะที่ Ethereum มีมูลค่าซื้อขายอยู่ที่ระดับ 1,800 ดอลลาร์ เช่นเดียวกับ Crypto ชั้นนำตัวอื่น ๆ เช่น Litecoin, Cardano และ Zilliqa ที่เห็นมูลค่าลดลง 

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางช่วงซบเซาของตลาด Crypto นักวิเคราะห์จากธนาคารระดับโลกอย่าง JPMorgan กลับเชื่อว่า ราคา Bitcoin จะพุ่งทะยานขึ้นแตะ 45,000 ดอลลาร์ในเดือนที่กำลังจะมาถึง โดยอ้างถึงเหตุผล 2 ประการ ด้วยกัน เหตุผลที่หนึ่ง คือ การที่นักลงทุนมองว่า Bitcoin เป็นตัวเลือกแทนทองคำ

นักลงทุนมองว่า ทองคำและ Bitcoin เป็นตัวรักษาเก็บรักษามูลค่าและป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ และด้วยทองคำที่ถูกเทรดอยู่ที่ 2,000 ดอลลาร์ นักวิเคราะห์จึงเชื่อว่า Bitcoin ควรมีการซื้อขายอยู่ที่ 45,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นมูลค่าที่สูงกว่าระดับราคาในปัจจุบันถึง 75%

ส่วนเหตุผลที่สอง คือ การ Halving ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2024 ซึ่งการ Halving จะเป็นการลดรางวัลที่นักขุด Bitcoin ได้รับลงครึ่งหนึ่งในทุก ๆ 4 ปี และในอดีต ราคา Bitcoin มักจะมีการพุ่งขึ้นเสมอ หลังการ Halving 

ยิ่งไปกว่านั้น การที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีท่าทีว่าจะหยุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ ยังส่งผลทำให้ราคา Bitcoin มีโอกาสปรับตัวขึ้นในเร็ว ๆ นี้อีกด้วย

ในขณะนี้ Bitcoin มีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 5.1 แสนล้านดอลลาร์ ดังนั้นหากราคา Bitcoin พุ่งขึ้นไปแตะ 45,000 ดอลลาร์ตามคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ JP Morgan  มูลค่าตลาดของ Bitcoin ก็จะขยับขึ้นไปอยู่ที่ 8.1 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งถือว่าเป็นมูลค่าตลาดที่สูงปัจจุบันถึง 3 แสนล้านดอลลาร์เลยทีเดียว

หากการคาดการณ์นี้ถูกต้อง เราอาจได้เห็นเหรียญ Altcoin ตัวอื่น ๆ อย่าง Zilliqa, Cardano และ Litecoin พุ่งขึ้นตามไปด้วย เนื่องจากโทเค็นเหล่านี้มักมีความเคลื่อนไหวใกล้ชิดกับราคา Bitcoin ซึ่งหากราคา Bitcoin พุ่งขึ้นถึง 70% ราคาโทเค็นเหล่านี้ก็อาจพุ่งขึ้นในลักษณะเดียวกันหรือมากกว่า

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จาก JPMorgan กล่าวว่า Crypto ยังคงมีความเสี่ยงจากเหตุการณ์ที่ทำให้ราคามีการปรับฐาน เช่น การปราบปรามทางกฎระเบียบที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ และความท้าทายภายในภาคการธนาคาร

“ผลกระทบจากการปราบปรามของหน่วยงานกำกับดูแลสหรัฐฯ เครือข่ายธนาคารที่สำหรับระบบนิเวศ Crypto ที่ยังไม่เข้าที่เข้าทาง และผลกระทบจากการล่มสลายของ FTX เมื่อปีที่แล้ว อาจเป็นอุปสรรคต่อแนวโน้มขาขึ้นของตลาด Crypto”


ที่มา: Bankless Times