<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

การบรรลุข้อตกลงในการเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐฯ จะส่งผลต่อราคา Bitcoin ในระยะยาวอย่างไร?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา สำนักข่าว Reuters รายงานว่า Joe Biden ประธานาธิบดีสหรัฐ กับ Kevin McCarthy ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในเรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ อีก 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้

เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ราคา Bitcoin ขยับกลับมายืนเหนือ 28,000 ดอลลาร์ได้สำเร็จในช่วงเช้าของวันนี้ ขณะเดียวกัน Ethereum ก็สามารถได้เรียกคืนแนวต้านที่ 1,900 ดอลลาร์ได้สำเร็จเช่นกัน เนื่องจากการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ได้กระตุ้นให้นักลงทุนอยากลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มมากขึ้น

ในขณะเดียวกัน ฟิวเจอร์สตราสารทุนของสหรัฐฯ ก็ยังได้ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงวันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม ท่ามกลางความเชื่อมั่นในเชิงบวกที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

จะเห็นได้ว่าการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ ในครั้งนี้ ส่งผลดีต่อราคา Bitcoin อย่างไรก็ตาม ถ้าหากรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่รีบคลี่คลายปัญหาเรื่องภาระหนี้ก้อนใหญ่ สิ่งนี้ก็อาจส่งผลร้ายต่อตลาด Crypto ในอนาคตด้วยเช่นกัน ดังนั้นในวันนี้ทางสยามบล็อกเชนจึงจะพาทุกคนมาดูกันว่าการบรรลุข้อตกลงในการเพิ่มเพดานหนี้ดอลลาร์สหรัฐ จะส่งผลต่อ Bitcoin ในระยะยาวอย่างไร

ดอลลาร์สหรัฐกับผลกระทบต่อ Bitcoin ในระยะยาว

ดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินสำรองของโลก หรือเรียกได้ว่าเป็นสกุลเงินที่ประเทศส่วนใหญ่ใช้ในการค้าขายระหว่างกัน โดยค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐนั้นได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย ซึ่งปัจจัยเหล่านั้นจะรวมถึงเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เศรษฐกิจโลก และหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ

ถ้าหากรัฐบาลสหรัฐฯ ผิดนัดชำระหนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวจะทำลายความน่าเชื่อถือของเงินดอลลาร์สหรัฐอย่างแน่นอน ซึ่งสิ่งนี้อาจทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอย่างหนัก แต่ในขณะเดียวกันก็ส่งผลให้ Bitcoin กลายเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับนักลงทุน

นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐจะทำให้ชาวอเมริกันต้องซื้อสินค้าและบริการจากประเทศอื่น ๆ ในราคาที่แพงขึ้นกว่าเดิม ซึ่งสิ่งนี้อาจทำให้ผู้คนที่ได้รับผลกระทบต้องการ Bitcoin เพิ่มมากขึ้น เนื่องจาก Bitcoin เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาล

โดยรวมแล้ว การผิดนัดชำระหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ อาจส่งผลดีต่อราคาของ Bitcoin ในระยะยาว อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ต้องตระหนักถึงอยู่เสมอ คือ Bitcoin เป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวน และราคาของ Bitcoin ก็สามารถผันผวนได้อย่างรวดเร็วในระยะเวลาสั้น ๆ จนอาจส่งผลกระทบอย่างหนักต่อนักลงทุนได้

บทสรุป

เพดานหนี้ของสหรัฐฯ ยังเป็นปัญหาหลักที่อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโลก ซึ่งถ้าหากรัฐบาลสหรัฐฯ ผิดนัดชำระหนี้ ก็อาจทำลายความน่าเชื่อถือของดอลลาร์สหรัฐ แต่ในภาพรวมนั้น การผิดนัดชำระหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ อาจส่งผลดีต่อราคาของ Bitcoin ในระยะยาว

บทความนี้จัดทำขึ้นด้วยการใช้ข้อมูลจาก Bard ซึ่งเป็น Generative AI ที่ได้รับการฝึกฝนจากทีมพัฒนาของบริษัท Google คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้