การล่มสลายของ FTX เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรม Crypto ซึ่งกรณีของ FTX นั้นได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่าประเด็นเรื่องความเสี่ยงของคู่สัญญา Crypto นั้นมีความสำคัญมากแค่ไหน ดังนั้น Binance เว็บเทรด Crypto ที่ใหญ่ที่สุดในโลกจึงได้คิดค้นวิธีแก้ปัญหาเท่าที่เป็นไปได้เพื่อแก้ไขปัญหาความเสี่ยงนี้
ตามรายงานของสื่อข่าว Bloomberg เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ระบุว่า Binance ต้องการให้นักเทรดมืออาชีพสามารถเลือกได้ว่าต้องการเก็บเงินหลักประกันการซื้อขายไว้ในธนาคารหรือไม่
Binance พยายามขจัดความเสี่ยงของคู่สัญญา
Binance เตรียมพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าด้วยกลยุทธ์ใหม่ในครั้งนี้ เพื่อให้นักเทรดบางรายสามารถเก็บเงินหลักประกันไว้ในธนาคารได้ ซึ่งจะนำไปสู่การขจัดความเสี่ยงของคู่สัญญา
ทั้งนี้ความเสี่ยงของคู่สัญญา คือ การวัดว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่เกี่ยวข้องในการทำธุรกรรมมีโอกาสผิดนัดเมื่อสิ้นสุดการต่อรองมากแค่ไหน และถ้าหากกรณีนี้เกิดขึ้นจริง ความเสียหายที่ตามมานั้นจะมีมากเท่าไร
แหล่งข่าวนิรนามเปิดเผยกับทาง Bloomberg ว่า Binance ได้พูดคุยกับลูกค้าสถาบันบางราย ในประเด็นเกี่ยวกับแผนการในอนาคตที่จะช่วยให้พวกเขาสามารถใช้เงินฝากธนาคารเป็นหลักประกันสำหรับ margin trading
ตามรายงานข่าว ข้อตกลงหนึ่งที่เป็นไปได้คือการล็อกเงินสดของลูกค้าที่ธนาคารผ่านข้อตกลงสามฝ่าย โดยในขณะที่เว็บเทรดให้ยืม Stablecoins ของลูกค้า ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นหลักประกันสำหรับ margin trading ทั้งในตลาดสปอตและตลาดตราสารอนุพันธ์ เงินค้ำประกันเหล่านี้ที่ฝากไว้ในธนาคารจะสามารถลงทุนในกองทุนตลาดเงินได้ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถสะสมดอกเบี้ยและชดเชยค่าใช้จ่ายในการยืมสินทรัพย์ Crypto จาก Binance ได้
Binance มองหาความร่วมมือกับธนาคาร
Binance ได้พูดคุยถึงโปรเจกต์ดังกล่าวกับทางธนาคาร 2 แห่ง ได้แก่ Bank Frick และ FlowBank ซึ่งตั้งอยู่ในยุโรป อย่างไรก็ตาม รายละเอียดเกี่ยวกับความร่วมมือที่อาจเกิดขึ้นจะยังคงเป็นความลับ อีกทั้ง Binance ยังไม่ได้สรุปแผนงานทั้งหมด และข้อตกลงดังกล่าวก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงในภายหลัง
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจาก Binance และบริษัทซื้อขาย Crypto อื่น ๆ เผชิญกับแรงกดดันอย่างมากในการรับประกันความปลอดภัย ในกรณีที่เกิดความล้มเหลวอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน เช่นเดียวกับการล่มสลายของ FTX เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ซึ่งจะนำมาซึ่งความสูญเสียอย่างอย่างมากสำหรับนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อย
ในระหว่างการสัมภาษณ์เมื่อเร็ว ๆ นี้ Changpeng Zhao CEO ของ Binance เปิดเผยว่าเว็บเทรดได้พิจารณาเรื่องการซื้อกิจการของธนาคารในช่วงสั้น ๆ เพื่อทำให้ธนาคารแห่งนั้นเป็นมิตรกับ Crypto แต่ท้ายที่สุดแล้วทาง Binance ก็ตัดสินใจยกเลิกแผนการนี้ เนื่องจากกฎระเบียบที่เข้มงวด ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง และความคาดหวังในผลกำไร
“ธนาคารไม่ได้ราคาถูกเลย ธนาคารนั้นแพงมาก แต่รายรับจากธุรกิจธนาคารกลับน้อยมาก” CZ ตั้งข้อสังเกต “จำนวนเงินทุนที่ต้องใช้ค่อนข้างสูง และการอนุมัติตามกฎระเบียบในการซื้อธนาคารนั้นเหมือนกับการตั้งธนาคารใหม่ หรืออาจมากกว่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมาก”
ที่มา: zycrypto