<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

6 สิ่งที่ AI อาจจะเข้ามาปฏิวัติและยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของเราภายในปี 2030 

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ยังคงเป็นหัวข้อที่ถูกพูดถึงและได้รับความนิยมในหมู่ผู้ที่สนใจรวมถึงผู้ที่รักและชื่นชอบเทคโนโลยี

โดยทาง CryptoPotato เองก็ได้ใช้แพลตฟอร์ม AI ชื่อดังอย่าง ChatGPT ในการถามถึงหัวข้อ  AI จะส่งผลกระทบกับชีวิตเราอย่างไรภายในปี 2030

6 อย่างที่ AI จะส่งผลกระทบต่อชีวิตเรา

โดยเมื่อถามผ่าน ChatGPT ออกไปแล้วนั้นก็ทำให้ได้คำตอบออกมาว่า AI จะส่งผลกระทบต่อชีวิตเราอย่างไรบ้างในปี 2030 โดยจะแบ่งออกเป็น 6 อย่างประกอบไปด้วย

ระบบอัตโนมัติและตลาดแรงงาน

ตามข้อมูลที่ได้มาจากแชทบอทนั้น AI มีศักยภาพในการทำงานซ้ำ ๆ โดยอัตโนมัติและเพิ่มขีดความสามารถของมนุษย์ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้

AI ยังกล่าวอีกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นอาจนำไปสู่การโละพนักงานในบริษัท แต่ก็ยังสามารถสร้างโอกาสในการทำงานใหม่ ๆ มากมายในด้านที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา AI, การทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์กับ AI และการวิเคราะห์ข้อมูล

การดูแลสุขภาพ

AI สามารถพัฒนาชีวิตของเราโดยการปรับแต่งการวินิจฉัย, ยาประจำตัวของแต่ละบุคคลและการค้นพบยาใหม่ ๆ 

ChatGPT กล่าวว่าอัลกอริธึมที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถวิเคราะห์ภาพทางการแพทย์, ข้อมูลทางพันธุกรรมและบันทึกของผู้ป่วยได้ สิ่งนี้สามารถช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัยอาการป่วยได้อย่างแม่นยำและวางแผนการรักษาได้ดีมากยิ่งขึ้น

การขนส่งและการคมนาคม

ตอนนี้ AI กำลังถูกพัฒนาเพื่อนำไปใช้ในรถยนต์ไร้คนขับและภายในปี 2030 ยานพาหนะไร้คนขับอาจกลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้น สิ่งนี้อาจเพิ่มความปลอดภัยทางถนน, ลดความแออัดของการจราจรและปรับปรุงประสิทธิภาพการขนส่ง

การศึกษา

การศึกษาเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ AI ส่งผลกระทบอย่างมากต่อชีวิตของเราโดย AI เข้ามาปรับประสบการณ์การเรียนรู้ให้เหมาะกับแต่ละบุคคล ในขณะเดียวกันก็จะเป็นสื่อการสอนที่ชาญฉลาดและจัดการทุกอย่างไปในรูปแบบอัตโนมัติ

การบริการลูกค้า

นี่คือสิ่งที่ AI เข้ามาเขย่าในวงการนี้อย่างแท้จริง Chatbots และผู้ช่วยเสมือนที่ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยีนี้กำลังถูกใช้โดยหลายบริษัทในปัจจุบัน

“ภายในปี 2030 ระบบ AI เหล่านี้อาจก้าวหน้ายิ่งขึ้นไปอีกและสามารถจัดการกับคำถามที่ซับซ้อน, เสนอคำแนะนำส่วนบุคคลและมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้า” ChatGPT กล่าว

Smart Home and City

AI นั้นมีความสามารถในการพัฒนาบ้านเมืองให้มีความ smart มากยิ่งขึ้น

อุปกรณ์และระบบที่เชื่อมต่อกันสามารถทำงานร่วมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน, เพิ่มความปลอดภัยและปรับปรุงคุณภาพชีวิตโดยรวมนั่นเป็นอีกแนวคิดหนึ่งที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า Internet of Things (IoT)

ที่มา : CryptoPotato