การ Hardfork ล่าสุดของ Ethereum (ETH) ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถถอน Ethereum ที่ Staking ไว้ได้และพร้อมที่จะวางตำแหน่งเป็นผู้นำด้านคริปโตเคอร์เรนซีที่น่ากลัวกับตั๋วเงินคลังสหรัฐฯ ในปีต่อ ๆ ไปตามการรายงานของ VanEck ผู้จัดการสินทรัพย์ของสหรัฐฯ ที่ควบคุมกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (ETF) มูลค่า 6.9 หมื่นล้านดอลลาร์
Ethereum จะกลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของตั๋วเงินคลังสหรัฐฯ เนื่องจากความคาดหวังที่ว่า Ethereum จะคิดเป็น 70% ของ Smart Contract ซึ่งอาจส่งผลให้สกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่สองของโลกอาจมีมูลค่าสูงถึง 11,800 ดอลาลร์ในปี 2030
ตามที่ VanEck กล่าวในรายงานการคาดการณ์ราคา Ethereum บนเว็บไซต์ที่เพิ่งเผยแพร่เมื่อเร็ว ๆ นี้
“สมมติว่า ETH ครอบครองตลาด 70% ในกลุ่มโปรโตคอลสัญญาอัจฉริยะ ซึ่งหมายถึงราคาโทเค็นที่ 11.8,000 ดอลลาร์ในปี 2030”
ทั้งนี้หากการคาดการณ์ของ VanEck เป็นจริง แสดงว่า Ethereum จะเห็นราคาเพิ่มขึ้น 531% ภายในปี 2030 จากระดับปัจจุบัน นอกจากนี้ VanEck ยังเห็นรายได้จากเครือข่าย ETH เพิ่มขึ้นจากอัตราต่อปีที่ 2.6 พันล้านดอลลาร์เป็นสูงถึง 5.1 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2030 อีกด้วย
การคำนวณของ VanEck
VanEck กล่าวว่าการคาดการณ์ราคาล่าสุดทำขึ้นโดยใช้การคาดการณ์กระแสเงินสดและการคำนวณมูลค่าแบบปรับลด (FDV) อีกทั้งผู้จัดการกองทุนยังประเมิน Ethereum โดยการประมาณกระแสเงินสดสำหรับปีที่สิ้นสุดในวันที่ 30 เมษายน 2030
ผู้จัดการสินทรัพย์ได้รับตัวเลขกระแสเงินสดโดยคาดการณ์รายได้ของ Ethereum และหักอัตราภาษีทั่วโลกและลดรายได้จากเครื่องมือตรวจสอบความถูกต้อง จากนั้น VanEck กล่าวว่าใช้การประมาณการหลายครั้งโดยใช้กระแสเงินสดระยะยาวโดยประมาณที่ 7% ลบด้วยอัตราการเติบโตของคริปโตระยะยาว ที่ 4%
ปัจจุบัน Ethereum กำลังซื้อขายอยู่ที่ระดับราคา 1,870 ดอลลาร์ ลดลง 1.82% ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยในช่วงเดือนที่ผ่านมา cryptocurrency ร่วงลงมากกว่า 6.2% แม้ว่ากำไรของปีนี้จะยังคงแข็งแกร่งที่ 55.8% ก็ตาม