<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

เกิดอะไรขึ้นกับ Ethereum ? ราชาแห่ง Altcoin ที่ตอนนี้กำลังตกที่นั่งลำบาก

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

หากพูดถึง “ Ethereum” ในอดีต ภาพที่หลายคนนึกถึงมักจะเป็นเครือข่ายอัจฉริยะเบอร์หนึ่งของโลกคริปโต—ราชาแห่ง Altcoin ที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างยุคทองของ DeFi, NFT และ Smart Contract แต่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เหรียญที่เคยยิ่งใหญ่กลับถูกทิ้งไว้ข้างหลังอย่างน่าใจหาย

จากที่เคยเป็นดาวรุ่งในสายตานักพัฒนาและนักลงทุนทั่วโลก Ethereum กำลังเผชิญกับมหากาพย์แห่งความเสื่อมถอย ไม่ใช่เพียงแค่การปรับฐานราคา แต่ยังรวมถึงความศรัทธาที่เริ่มสั่นคลอนในระดับโครงสร้าง ทั้งจากภายในองค์กร ไปจนถึงแรงกดดันภายนอกที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุด

ตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา นักลงทุนและเทรดเดอร์สาย ETH ต่างเริ่มตั้งคำถามกับทิศทางของโปรเจกต์ที่เคยถูกยกย่องว่าเป็นอนาคตของอินเทอร์เน็ตยุคใหม่ วันนี้หลายคนเริ่มถอดใจ ขณะที่บางส่วนถึงขั้น “ย้ายค่าย” ไปหาโปรเจกต์คู่แข่งที่ดูจะตอบโจทย์ตลาดมากกว่า

ทำไมราคาของ Ethereum ร่วงเอา ร่วงเอา

หนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้ราคา Ethereum ยังคงซบเซาไม่ฟื้นตัว คือพฤติกรรมการเทขายอย่างต่อเนื่องจากฝั่ง Ethereum Foundation เอง ซึ่งเป็นผู้ถือเหรียญรายใหญ่และมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเครือข่าย โดยในช่วงตั้งแต่ต้นปี 2024 เป็นต้นมา มูลนิธิได้ทำการเทขายเหรียญออกไปมากถึง 93,440 ETH คิดเป็นสัดส่วนกว่า 30% ของคลังทั้งหมด ที่มีอยู่ราว 314,000 ETH

แน่นอนว่าเมื่อทางฝั่งของ Foundation ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ร่วมก่อตั้งเป็นคนเทขายเหรียญออกมาเองย่อมทำให้เกิดความวิตกกังวลในหมู่นักลงทุน ซึ่งเจ้ามือจำนวนมากต่างเริ่มหมดความอดทนหรือหมดศรัทธาในตัวของเครือข่าย Ethereum 

ข้อมูลยังชี้ว่าเจ้ามือหลายรายก็เริ่มทยอยขาย ETH มิหนำซ้ำเหล่า Hodler ที่ถือเหรียญมาอย่างยาวนาน ต่างก็เริ่มทยอยขายเหรียญที่เก็บสะสมมาอย่างยาวนาน ซึ่งล่าสุดเพิ่งมีเจ้ามือรายหนึ่งเทขาย 2,056 ETH พร้อมกับทำการเปิดตำแหน่งชอร์ต รวมไปถึงบริษัทใหญ่อย่าง Galaxy Digital ที่ตัดสินใจเท Ethereum กว่า 65,000 ETH เพื่อย้ายไปเข้าซื้อเหรียญคู่แข่งอย่าง Solana แทน

ปัจจัยอื่นๆ รุมเร้า

นอกจากแรงเทขายจากเจ้ามือและผู้ก่อตั้งแล้ว เครือข่าย Ethereum เองก็เริ่มเผชิญกับแรงกดดันจากการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ปัจจุบัน Ethereum ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นแพลตฟอร์ม “เบอร์หนึ่ง” อย่างไร้ข้อกังขาเหมือนในอดีตอีกต่อไป เมื่อคู่แข่งรุ่นใหม่อย่าง Solana กำลังเร่งเครื่องแซงในหลายด้าน

หนึ่งในหมุดหมายสำคัญที่เพิ่งเกิดขึ้นคือ Solana สามารถแซงหน้า Ethereum ได้ในแง่ของมูลค่าตลาดการ Staking ซึ่งถือเป็นตัวชี้วัดความเชื่อมั่นและการมีส่วนร่วมของผู้ถือเหรียญอย่างมีนัยสำคัญ และยังสะท้อนว่ากำลังเกิดการย้ายกระแสจาก Ethereum ไปยังแพลตฟอร์มที่เร็วกว่า ค่าธรรมเนียมถูกกว่า และตอบโจทย์นักพัฒนาในยุคใหม่มากกว่า

นโยบายของทรัมป์

อีกหนึ่งปัจจัยที่กระทบต่อราคาของ Ethereum โดยตรงในช่วงนี้คือ นโยบายภาษีนำเข้าของโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับตลาดการเงินทั่วโลก ความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้ส่งแรงกระเพื่อมมาถึงโลกคริปโตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะในช่วงก่อนหน้านี้ที่ Bitcoin ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงทำจุดต่ำสุดที่ $76,000 เหรียญ Altcoin อื่น ๆ รวมถึง Ethereum ก็ได้รับแรงเทขายแบบไม่ยั้งเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่หลายคนตั้งคำถามคือ เหตุใดทรัมป์จึงปล่อยให้สถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ทั้งที่บริษัท WLFI ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับตระกูลทรัมป์เองก็ถือครอง Ethereum อยู่เป็นจำนวนมาก การกดดันตลาดในลักษณะนี้อาจสะท้อนแรงกระแทกกลับมาที่ผลประโยชน์ของตัวเขาเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ในขณะที่รายงาน Ethereum กำลังซื้อขายอยู่ที่ระดับราคา $1,577 โดยร่วงลงกว่า 4.23% ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา อ้างอิงข้อมูลจาก Coinmarketcap