ดูเหมือนว่าตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน Bitcoin ETF จะมีเงินไหลเข้าสุทธิกว่า 912 ล้านดอลลาร์ ภายในวันเดียว
โดยเมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา กองทุน Bitcoin ETF มีเงินไหลเข้าสูงที่สุดในรอบกว่าสามเดือนนับตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม อ้างอิงจากข้อมูลของ Farside Investors

ในขณะเดียวกัน James Butterfill หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ CoinShares ระบุ Bitcoin ETPs เพิ่งมียอดเงินไหลเข้ารายวันสูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของความเชื่อมั่นนักลงทุน
การฟื้นตัวของความเชื่อมั่นนี้มีจุดเปลี่ยนสำคัญจากถ้อยแถลงของอดีตประธานาธิบดี Donald Trump ที่กล่าวว่าภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนจะ “ลดลงอย่างมาก” ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการค้า ซึ่งส่งผลให้ราคาของ Bitcoin กลับมาแตะระดับ 93,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบ 7 สัปดาห์
นักวิเคราะห์มองว่า การลงทุนจากสถาบันและการเติบโตของ ETF กำลังเร่งวงจรตลาดสี่ปีของ Bitcoin ให้เร็วขึ้น และอาจช่วยผลักดันราคาขึ้นสู่ระดับสูงสุดใหม่ก่อนสิ้นปี 2025 โดยมีปัจจัยหนุนจากดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) ที่อ่อนค่าลงต่อเนื่องกว่า 9% ตั้งแต่ต้นปี แตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปีที่ 98.8 จุด ซึ่งเป็นระดับเดียวกับเดือนเมษายน 2022

Ryan Lee หัวหน้านักวิเคราะห์จาก Bitget Research กล่าวว่า ปัจจัยมหภาคอย่างค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนลง และความสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้นกับราคาทองคำ กำลังเสริมความน่าสนใจของ Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความผันผวนทางเศรษฐกิจ
ในขณะที่ Iliya Kalchev นักวิเคราะห์จาก Nexo เสริมว่า “ตลาดกำลังปรับมุมมองใหม่ต่อสิ่งที่เรียกว่าความปลอดภัย” โดย Bitcoin ได้รับแรงหนุนจาก “เงินไหลเข้าจาก ETF ที่แข็งแกร่ง การเข้าซื้อของสถาบัน และการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์”
“Bitcoin ไม่ได้เป็นแค่เงาของหุ้นเทคโนโลยีอีกต่อไป แต่มันกลายเป็นเลนส์ที่สะท้อนความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมหภาค”
ด้าน Alex Svanevik CEO ของ Nansen มองว่า Bitcoin ได้แสดงถึงความแข็งแกร่งอย่างชัดเจนในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า “มันกำลังกลายเป็นสินทรัพย์ที่เหมือนทองคำมากขึ้นเรื่อยๆ” แต่ก็เตือนว่าความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยอาจเป็นข้อจำกัดต่อการปรับตัวขึ้นของราคา
ในขณะที่ Arthur Hayes ผู้ร่วมก่อตั้ง BitMEX ก็ได้ออกมาทำนายว่า นี่อาจเป็น “โอกาสสุดท้าย” ที่จะได้ซื้อ Bitcoin ต่ำกว่า 100,000 ดอลลาร์ โดยให้เหตุผลว่าแผนการซื้อคืนพันธบัตรของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ อาจกลายเป็นปัจจัยกระตุ้นครั้งใหญ่อีกระลอกสำหรับราคาของ Bitcoin ในอนาคตอันใกล้นี้
ที่มา: Cointelegraph