<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Novogratz ยืนยัน! Stablecoin จะแทนที่ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศภายใน 5 ปี

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Mike Novogratz เจ้าพ่อคริปโตมองว่า Stablecoin กำลังจะเปลี่ยนโฉมระบบการเงินโลกในอนาคตอันใกล้ โดยคาดการณ์ว่าจะเข้ามาแทนที่ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (FX) แบบดั้งเดิมภายในไม่ถึง 5 ปี

ทำไม Stablecoin ถึงจะเข้ามาแทนที่ตลาด FX ได้?

ตลาด FX แบบดั้งเดิมยังคงประสบปัญหาสำคัญหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นความล่าช้าในการทำธุรกรรมและต้นทุนที่สูง ซึ่ง Stablecoin สามารถแก้ไขข้อจำกัดเหล่านี้ได้ด้วยการนำเสนอระบบที่มีประสิทธิภาพมากกว่า รวดเร็วกว่า และมีต้นทุนต่ำกว่า

CEO ของ Galaxy Digital ได้เตือนว่าประเทศที่ไม่ยอมรับ Stablecoin จะเสี่ยงต่อการถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เนื่องจากเขาเชื่อว่าระบบการเงินโลกกำลังมุ่งหน้าสู่การใช้สกุลเงินดิจิทัลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดย Novogratz ได้กล่าวบนทวีตว่า

“หากประเทศต่างๆ ต้องการเข้าร่วม พวกเขาจะต้องเข้าร่วม ไม่เช่นนั้นจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง” 

การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของตลาด Stablecoin

ตลาด Stablecoin เติบโตแบบก้าวกระโดดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยมูลค่าตลาดรวมพุ่งจากเพียง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2020 เป็น 2.3 แสนล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน แสดงให้เห็นถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ผู้เล่นรายใหม่ยังคงเข้ามาในตลาดอย่างต่อเนื่อง เมื่อเดือนที่แล้ว Reuters รายงานว่ายักษ์ใหญ่ด้านกองทุนรวมอย่าง Fidelity กำลังพิจารณาที่จะเปิดตัว Stablecoin ที่ผูกกับดอลลาร์สหรัฐของตนเอง

Ripple ก็ได้เข้าสู่ตลาดนี้เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมาด้วยการเปิดตัว RLUSD ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าตลาดใกล้แตะ 300 ล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม Tether ยังคงเป็นผู้นำตลาดอย่างไม่มีใครเทียบ โดย USDT มี Market Cap สูงถึง 147,000 ล้านดอลลาร์

แรงหนุนจากกฎหมายและความท้าทาย

มีความคืบหน้าสำคัญในด้านกฎหมายเกี่ยวกับ Stablecoin โดยร่างกฎหมายอย่าง STABLE และ GENIUS Acts กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของรัฐสภาสหรัฐฯ ซึ่งจะช่วยสร้างกรอบกฎระเบียบที่ชัดเจนสำหรับอุตสาหกรรมนี้

แม้จะมีแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่ง แต่อุตสาหกรรม Stablecoin ยังคงต้องเผชิญกับปัญหาด้านความเชื่อมั่นหลังจากเคยมีเหตุการณ์การล่มสลายของ Terra/Luna ในปี 2022 ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน 

โดยเมื่อเดือนที่แล้ว Novogratz เองก็ได้ตกลงจ่ายค่าปรับ 200 ล้านดอลลาร์ให้กับหน่วยงานกำกับดูแลของนิวยอร์กสำหรับการส่งเสริมโปรเจคที่ล้มละลายดังกล่าว

การคาดการณ์ของ Novogratz สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นว่า Stablecoin จะเป็นส่วนสำคัญของอนาคตทางการเงิน แม้จะเผชิญกับความท้าทายในปัจจุบันก็ตาม
Source: U.Today