Strive บริษัทที่ก่อตั้งโดย Vivek Ramaswamy กำลังวางแผนสร้างคลังสะสม Bitcoin ขนาดใหญ่ โดยมีเป้าหมายที่จะเข้าซื้อสิทธิ์เคลมหนี้ Bitcoin จำนวน 75,000 BTC ที่เกี่ยวข้องกับ Mt. Gox ซึ่งเป็นเว็บเทรดชื่อดังที่ล่มสลายไปในปี 2014 หลังจากถูกแฮ็กจนสูญเสีย Bitcoin ไปถึงราว 750,000 BTC
การเคลื่อนไหวครั้งนี้ถูกเปิดเผยผ่านเอกสารที่ยื่นต่อคณะกรรมการ ก.ล.ต. สหรัฐฯ (SEC) เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดย Strive ได้ร่วมมือกับบริษัท 117 Castell Advisory Group LLC เพื่อเข้าซื้อสิทธิ์เคลมหนี้ที่ได้รับการตัดสินทางกฎหมายแล้ว แต่ยังรอการแจกจ่ายอยู่ ซึ่งหากสำเร็จ จะทำให้บริษัท Strive สามารถซื้อ Bitcoin ได้ในราคาที่ถูกกว่าตลาด และช่วยเพิ่มอัตราสัดส่วน Bitcoin ต่อหุ้นของบริษัท ก่อนที่จะควบรวมกิจการกับบริษัท Asset Entities เสร็จสิ้นในช่วงกลางปีนี้
แม้ตอนนี้ บริษัท Strive จะยังไม่เปิดเผยการถือครอง Bitcoin อย่างเป็นทางการ แต่บริษัทระบุว่า จะมีข้อจำกัดน้อยกว่าบริษัทที่ใช้วิธีตั้งบริษัท SPAC และเข้าระดมทุนในตลาดหุ้น เพื่อนำเงินมาเข้าซื้อ Bitcoin
อย่างไรก็ตาม บริษัท Strive จะต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นก่อน จึงจะสามารถเดินหน้าซื้อสิทธิ์เคลมหนี้จาก Mt. Gox ได้ และทางบริษัท Strive ยังเตรียมยื่นเอกสารเพิ่มเติมกับ SEC เพื่อชี้แจงรายละเอียดทั้งหมด โดยจะส่งหนังสือโหวตขอความเห็นชอบจากผู้ถือหุ้นในลำดับถัดไป ซึ่งต้องดำเนินการอย่างรวดเร็ว เนื่องจาก Mt. Gox มีกำหนดคืนเงินให้เจ้าหนี้ทั้งหมด ภายในวันที่ 31 ตุลาคมนี้
ข้อดีของการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ผ่านการควบรวมกิจการแบบ Reverse Merger เมื่อเทียบกับการควบรวมกิจการแบบ SPAC ที่มา : Strive
การเปลี่ยนทิศทางของ Strive ไปสู่การเป็นบริษัทคลังสะสมบิตคอยน์ ถือเป็นแนวโน้มที่กำลังมาแรงในอุตสาหกรรม เนื่องจากตอนนี้เริ่มมีหลายบริษัทหันมาถือบิตคอยน์เป็นสินทรัพย์ระยะยาวในงบดุล
เช่นเดียวกับ Twenty One Capital บริษัทใหม่ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Tether, SoftBank และ Cantor Fitzgerald โดยเตรียมเปิดตัว พร้อมกับการถือครอง Bitcoin จำนวน 42,000 BTC หลังควบรวมกับ Cantor Equity Partners
นอกจากนี้ หุ้นของ Asset Entities (ASST) ซึ่งเป็นบริษัทด้านการตลาดโซเชียลมีเดียที่ บริษัท Strive จะควบรวมด้วย ก็ได้รับแรงหนุนอย่างมาก จากแผนกลายเป็นบริษัทลงทุนบิตคอยน์ โดยในวันที่ 20 พฤษภาคม ราคาหุ้นของ Asset Entities (ASST) พุ่งขึ้นถึง 18.2% ปิดที่ $7.74 ดันมูลค่าตลาดแตะ 122.1 ล้านดอลลาร์ และทำให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นกว่า 1,170% นับตั้งแต่มีการประกาศแผนควบรวมเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา
หลังควบรวมกันแล้ว Strive จะถือหุ้นในบริษัทใหม่มากถึง 94.2% ขณะที่ Asset Entities จะถือหุ้นอยู่เพียง 5.8% และบริษัทใหม่จะยังใช้ชื่อ Strive และ Asset Entities ภายใต้ตัวย่อ ASST เหมือนเดิมบนตลาดหุ้น
ที่มา : cointelegraph