ธนาคารกลางฮ่องกงหรือ Hong Kong Monetary Authority (HKMA) กำลังเร่งพัฒนาโครงการ Central Bank Digital Currency (CBDC) ภายใต้ชื่อ Project e-HKD+ ซึ่งนำเทคโนโลยี Cross-Chain Interoperability Protocol (CCIP) ของ Chainlink โดยจะเข้ามาใช้เพื่อเปิดทางให้เกิดการชำระเงินข้ามพรมแดน และการชำระบัญชีของสินทรัพย์แบบ tokenized ได้อย่างไร้รอยต่อ
โครงการนี้เริ่มต้นเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2024 และจะดำเนินการไปจนถึงสิ้นปี 2025 โดยมีผู้เข้าร่วมทดสอบรวม 11 ราย เช่น Visa, ANZ และ Fidelity International ซึ่งแต่ละรายจะมีบทบาทในการทดสอบแนวทางการเงินดิจิทัลในหลายมิติ เช่น การชำระเงินแบบ programmable และการทำธุรกรรมแบบออฟไลน์
หนึ่งในกรณีศึกษาหลักของโครงการคือ การที่นักลงทุนจากออสเตรเลียใช้ stablecoin ที่มีการหนุนด้วยดอลลาร์ออสเตรเลีย (A$DC) เพื่อซื้อกองทุนรวมตลาดเงินที่ tokenized จากบริษัทบริหารสินทรัพย์ในฮ่องกง และชำระด้วย e-HKD ผ่านระบบของ Visa ซึ่งสามารถดำเนินการได้แบบ real-time เพื่อลดความเสี่ยงในการชำระบัญชี
รายงานจาก Visa ระบุว่า Chainlink จะเป็นแกนกลางของระบบดังกล่าว โดย CCIP ทำหน้าที่เชื่อมโยงระบบของ ANZ ที่ใช้เครือข่ายส่วนตัว DASChain เข้ากับ Ethereum Sepolia testnet ซึ่งเปิดทางให้สถาบันการเงินสามารถส่งข้อความข้ามเชนได้อย่างปลอดภัย
Chainlink ยังได้นำเสนอเครื่องมืออย่าง Digital Transfer Agent (DTA) เพื่อรองรับการดำเนินการของกองทุนบนหลายเชน และบริการ Compliance Services ซึ่งทำหน้าที่ตรวจสอบตัวตนผู้ลงทุนแบบ on-chain ผ่านระบบ Cross-Chain Identity (CCID)
Project e-HKD+ อาจทำให้ฮ่องกงก้าวขึ้นเป็นผู้นำในโลกการเงินดิจิทัล โดยเฉพาะในด้านการเชื่อมต่อระหว่างระบบบล็อกเชนแบบปิดและแบบเปิด ซึ่งในโครงการนี้ใช้มาตรฐาน ERC-20 สำหรับ e-HKD และ ERC-3643 สำหรับ tokenized deposit ทั้งหมดอยู่ภายใต้กรอบกำกับดูแลตามรายงานของ Visa
ที่มา: Economist