<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

แฮ็กเกอร์ใช้บัญชี Instagram ของ McDonald’s โปรโมตเหรียญมีม กวาดรายได้ไปกว่า 23 ล้านบาท!

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

แฮ็กเกอร์ได้ทำการเจาะระบบบัญชี Instragram อย่างเป็นทางการของ McDonald เพื่อปั่นราคาและเทขายเหรียญมีมที่มีชื่อว่า “Grimace” บนเชนโซลาน่า โดยพวกเขาสามารถกวาดเงินไปได้กว่า 700,000 usd หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 23 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม IG ของ McDonald ได้โพสต์โปรโมตโทเค็นมีมมาสคอตสีม่วงของร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดแห่งนี้ ซึ่งก็คือ “Grimace” พร้อมระบุถึงเครือข่าย Solana และ ที่อยู่กระเป๋าอย่างชัดเจน พอใครมาเห็นก็คิดว่า Mcdonald นั้นออกเหรียญมีมของตัวเอง แต่แท้ที่จริงแล้วทั้งหมดนั้นมันคือการหลอกลวงจากแฮ็กเกอร์ทั้งสิ้น

ภาพแคปหน้าจอการโปรโมทเหรียญมีม Grimace บน IG ที่มา: Timo BullT

มีหลายโพสต์ได้อธิบายถึงเหรียญมีมปลอมนี้ว่าเป็น “การทดลองเหรียญมีมของ McDonald บน Solana” ซึ่งถูกเผยแพร่ไปยังผู้ติดตาม 5.1 ล้านคนทั่วโลก

ตามข้อมูลจากแพลตฟอร์ม Bubblemaps แฮกเกอร์ได้ใช้เครื่องมือสร้างเหรียญมีมบน Solana ชื่อ pump.fun เพื่อกวาดซื้อ 75% ของอุปทานทั้งหมดของโทเค็น Grimace ก่อนที่จะแบ่งไปยังกระเป๋าสตางค์ต่าง ๆ ประมาณ 100 ใบ

หลังจากโพสต์ของบัญชี McDonald มูลค่าของเหรียญมีม GRIMACE ก็พุ่งขึ้นจากมูลค่าตลาดเพียงไม่กี่พันดอลลาร์ไปสูงถึง 25 ล้านดอลลาร์ภายใน 30 นาที ตามข้อมูลจาก DexScreener

แต่ในท้ายที่สุดแล้ว ราคาของเหรียญ GRIMACE  ก็ได้ลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อแฮกเกอร์ได้เทขายเหรียญออกมาสู่ตลาด ในลักษณะ “ปั่นและทุบ” โดยภายใน 40 นาที มูลค่าของเหรียญมีมตัวนี้ก็ร่วงลงต่ำถึง 650,000 ดอลลาร์

กราฟราคา 5 นาทีของเหรียญมีม GRIMACE ที่มา: Dexscreener

หลังจากการโจมตี แฮกเกอร์ยังได้แก้ไขส่วน Bio IG ของ McDonald เพื่อคุยโวเกี่ยวกับการแฮ็กครั้งนี้ พร้อมกับเยาะเย้ยนักลงทุนทุกคนว่า พวกเขาได้รับเงินไปทั้งหมด 700,000 ดอลลาร์จากการหลอกลวงครั้งนี้

“ขอโทษด้วยเพื่อน คุณเพิ่งถูก Rug pull โดย India_X_Kr3w ขอบคุณสำหรับเงิน 700,000 ดอลลาร์ใน Solana” แฮกเกอร์เขียนไว้

ภาพแคปหน้าจอที่แฮ็กเกอร์เขียนไว้บน Bio IG ของ McDonald 

อย่างไรก็ตาม ต่อมาโพสต์ที่โปรโมตเหรียญมีมและส่วน Bio ได้ถูกลบออกและกลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ในขณะที่แมคโดนัลด์ได้บอกกับ New York Post ในแถลงการณ์ว่า บริษัทรับทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และตอนนี้บัญชีของเราได้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ พร้อมกับกล่าวขอโทษแฟนๆ ทุกคนสำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด

ที่มา:cointelegraph