สายขุดต้องรู้ ค่าดิฟคืออะไร มันส่งผลกับการขุดจริงมั้ย

เนื่องจากช่วงนี้มีคนมากมายที่คิดจะลงทุนกับเครื่องขุดการ์ดจอ แต่มักจะได้ยินเรื่องว่าเดียวค่าดิฟขึ้นๆแล้วเหมืองแตกหมด งั้นเรามาเล่าให้ฟังว่าค่าดิฟคืออะไรและมีผลอย่างไรบ้าง
ค่า Diff หรือ Difficult rate มันคือค่าความยากในการขุดสร้างขึ้นมากเพื่อป้องกันไม่ให้การได้มาซึ่งเหรียญนั้นยากหรือง่ายเกินไปซึ่งส่วนใหญ่แล้วค่าความยากนี้จะเพิ่มขึ้นตามจำนวนพลังการขุด มันก็เหมือนเหมือง ถ้าเกิดมีคนมาขุดมากส่วนแบ่งที่คนจะได้ มันจะน้อยลง แต่จริงๆมันเป็นเช่นนั้นจริงๆหรือเปล่า

ค่า Diff มีผลน้อยมากกับเงินที่เราขุดได้

ในเมื่อค่า Diff มีผลต่อการขุดแล้วทำไมมันถึงมีผลน้อยหละ การจะหาคำตอบนี้ก่อนอื่นเรามาดูค่าดิฟย้อนหลังซัก 1 เดือน ของ ETH ซึ่งเป็นเงินสกุลยอดนิยมสำหรับสายขุดการ์ดจอดีกว่า

โดยเราจะลองนับย้อนหลังไปเดือนนึงดูดีกว่าโดยเราจะนับเป็นอาทิตย์ๆ

วันที่ 27 พฤษภาคม Diff  อยู่ที่ 479 TH
วันที่ 4 มิถุนายนค่า Diff  อยู่ที่ 581 TH
วันที่ 11  มิถุนายนค่า Diff อยู่ที่ 659 TH
วันที่ 18  มิถุนายนค่า Diff อยู่ที่ 755 TH
วันที่ 25 มิถุนายนค่า Diff อยู่ที่ประมาณ 900 TH
ใครๆก็คงจะสังเกตุได้ว่าค่าดิฟมันเพิ่มขึ้น อ้าวแบบนี้มันก็ขุดยากสิ แบบนี้ได้น้อยๆแน่ๆ ใช่ครับแน่นอนคุณได้น้อยลง แต่คำว่าน้อยที่คุณขุดได้มานั้นมันมีค่าเท่าไรกันล่ะ?
วันที่ 27 พฤษภาคม 1 Eth มีค่า 150 USD

วันที่ 4 มิถุนายน 1 Eth มีค่า 231 USD
วันที่ 11  มิถุนายน 1 Eth มีค่า 333 USD
วันที่ 18  มิถุนายน 1 Eth มีค่า 374 USD
วันที่ 25 มิถุนายน 1 Eth มีค่า 326 USD

ซึ่งถ้าเทียบเป็นว่าเราใช้ค่า Diff เท่าไหร่ต่อเงิน 1 USD ก็จะได้เป็น  3.2 2.5 1.97 2.01 2.76 ซึ่งมันเกิดอะไรขึ้น โดยถ้าคุณมองในระยะยาวการปรับตัวของ Diff นั้นจะมาพร้อมกับค่าเงินที่เพิ่มขึ้น โดยคุณจะสังเกตุว่าจริงๆแล้วเมื่อเดือนที่แล้วอัตราส่วนค่าดิฟต่อเงินมันเยอะกว่าตอนนี้ซะอีก นั้นแปลว่าเมื่อ 1 เดือนที่แล้วค่าดิฟน้อยเราขุดได้เยอะ แต่ของที่เราขุดได้ไม่ได้มีมูลค่าเท่าวันนี้ จริงๆแล้วช่วงที่ค่าเงินเพิ่มกระทันหันแล้วค่า Diff ยังไม่เพิ่มตามมันทำให้เราได้เงินมากกว่าที่ควรจะเป็นและมันจะกลับมาเป็นมาตรฐานในระยะยาว

เหมืองไม่ได้มีแค่เหมืองเดียว

การขุดเงินดิจิตอลมันก็เหมือนกับการขุดเหมือง ซึ่งจริงๆเหมืองเนี่ยมันมีเหมืองเดียวกันแน่หรือ? มันไม่ใช่เลยสำหรับการ์ดจอที่ส่วนใหญ่ใช้อัลกอริทึ่ม Ethash หรือ DaggerHashimoto เราไม่ได้มีเหมือง Eth ให้ขุดเหมืองเดียว มันยังมี Music, Expanse, Etc, Ubiq ให้เราขุดอีกคุณลองคิดภาพถ้าเหมืองๆนึงมีคนขุดเยอะแล้วรายได้ไม่ดี จะเกิดอะไรขึ้น คนก็หนีไปขุดเหมืองอื่นไงล่ะแล้วสุดท้ายแต่ละเหมืองก็จะได้ผลตอบแทนในเรตที่ใกล้เคียงกัน ถ้าวันนี้เราขุด Eth ไม่คุ้มเราก็ย้ายไปที่อื่น
สำหรับใครสนใจวิธีขุดจากพูลสามารถอ่านได้ที่ การขุดด้วย Pool

แต่บางทีรายได้ลดลงเยอะเลยนะแบบหายไปเกือบครึ่ง

คนที่ประสบปัญหานี้ส่วนใหญ่เกิดจากการใช้เหมืองของ Nicehash ซึ่งโดยปกติการขุด Nicehash ไม่ใช่การขุดจริงๆแต่เป็นการขายกำลังขุดให้กับนายหน้าเพื่อให้เค้าไปขายต่ออีกที ซึ่งโดยปกติ NiceHash จะขุดได้น้อยกว่าการขุดเหรียญที่ดีที่สุดอยู่ประมาณ 10% ประกอบกับการโอนเงินออกจาก Nicehash ต้องเสียค่าธรรมเนียมอีก 3-4 % ในขณะที่พูลอื่นๆจะคิดแค่แค่ 0.5-1% และ Nicehash จ่ายค่าขุดให้คุณเป็น BTC ซึ่งถ้าเกิดเงิน BTC ร่วงก็โดนไปอีกเป็นสองเด้ง แต่จริงๆ Nicehash ก็มีข้อดีในตรงจุดที่หากเงินที่คุณขุดมามันอาจจะผันผวนได้หนักกว่า Btc ทำให้คุณไม่ต้องรับความเสี่ยงในจุดนี้

เพิ่มเติม

การขุดเหมืองจริงๆแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดคือความรู้ คุณควรจะรู้ว่าใน ณ เวลานี้คุณควรจะขุดอะไรให้ได้ผลตอบแทนดีที่สุด แล้วสิ่งที่คุณขุดออกมาควรจะถือยาวเก็งกำไรหรือขายทิ้งวันต่อไป ทั้งหมดเป็นเรื่องที่คุณต้องตัดสินใจและต้องศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมด้วยตัวเอง แต่หากคุณเลือกแต่จะใช้ Nicehash อย่างเดียว ไม่ศึกษาหาข้อมูลเพิ่ม ไม่เปิดโอกาสลองสิ่งใหม่ๆ มันก็เหมือนคุณเอาอุปกรณ์ขุดของคุณไปให้คนอื่นใช้ คุณจะเลือกไม่ได้ว่าคุณจะขุดเหมืองไหน ไม่สามารถบริหารความเสี่ยงของคุณเองได้ ความเสี่ยงของคุณจะขึ้นอยู่กับคนอื่นซึ่งคุณก็ต้องยอมรับมันให้ได้