<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

การขุด Bitcoin และเหรียญ Altcoins ง่ายอย่างที่คิดหรือไม่ ?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

หลาย ๆ คนที่เข้ามาในวงการคริปโต อาจจะเกิดความสนใจมาจากเรื่องการขุด Bitcoin ว่ามันสามารถทำ Passive Income ให้กับนักลงทุนได้ ตามที่หลาย ๆ คนเชื่อและบอกต่อกันมาหรือไม่ แค่เราซื้อเครื่องขุดมา เสียบปลั้ก ก็สามารถรับตังได้เรื่อย ๆ โดยที่เราไม่ต้องดูแลมันเลย แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันสวยหรูและง่ายดายขนาดนั้นเลยหรือ ?

ในที่นี้ เมื่อเราพูดถึงการขุด เราจะไม่พูดถึงการขุด Bitcoin แต่เพียงอย่างเดียวแต่จะเรียกรวม ๆ ว่าการขุดคริปโต เนื่องจากมีนักขุดจำนวนไม่น้อยเลยที่ไม่ได้ขุดเหรียญ Bitcoin อ้างอิงจากโพลที่ Siam Blockchain เคยจัดทำ

การขุดคริปโตนั้นอาจดูง่ายในสายตาสำหรับคนภายนอก แต่จริง ๆ แล้วมันมีความเสี่ยงอยู่หลายประการเลยทีเดียว หากคุณกำลังจะเริ่มซื้อเครื่องขุดคริปโต ควรจะคำนึงถึงเรื่องเหล่านี้ก่อนตัดสินใจ

การตั้งค่า & ดูแล

อ้างอิงจากโพลสำรวจ นักขุดคริปโตส่วนใหญ่ขุดคริปโตด้วยการ์ดจอ หากใครได้ติดตามในกลุ่มเฟสบุ๊ค Bitcoin Thai Club จะมีนักขุดมือใหม่เป็นจำนวนมากประสบปัญหา เช่น เครื่องดับ, จอฟ้า, กำลังขุดไม่ขึ้น และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งต้องใช้ประสบการณ์ ความรู้ ความเชี่ยวชาญ จากนักขุดเป็นอย่างมาก เพื่อที่จะดูแลเครื่องขุดให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตลอดเวลา 24/7 ซึ่งนั่นไม่ได้ใกล้กับที่คิดไว้เลย ที่แค่เสียบปลั้ก แล้วอยู่เฉยๆ ก็สามารถรับตังได้

รวมถึงการที่นักขุดจะขยายเหมืองของตนเองได้นั้น ต้องมีพื้นที่, ระบบระบายความร้อน และหม้อแปลงค่าไฟ ที่สามารถรองรับได้ หม้อแปลงไฟปกติจะสามารถรองรับได้แค่ระดับหนึ่งเท่านั้น ยิ่งถ้าเป็นเครื่อง ASIC อย่าง Antminer S9 ที่มีเสียงที่ดังถึง 80 dB, ความร้อนที่ต้องได้รับการดูแลตลอดเวลา และค่าไฟที่แพงถึง 4000 – 4500 ต่อเดือน นั้นยิ่งต้องคิดให้ดีก่อนลงทุนเลย

ค่า Difficulty ที่เพิ่มขึ้น

สำหรับคนที่ไม่ทราบ ค่า Difficulty คือค่าความยากในการขุด ซึ่งเครือข่ายต่าง ๆ จะปรับเปลี่ยนตลอดเวลา เพื่อให้เหมาะสมกับกำลังขุดของทั้งระบบ ยิ่งคนขุดในเครือข่ายมากขึ้น ค่า Difficulty ก็จะมากขึ้น และทำให้ขุดได้น้อยลงตาม

ประเด็นนี้เป็นเรื่องที่นักขุดคริปโตทุกคนต้องทราบดี เนื่องจากมันส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของนักขุดโดยตรง ไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ว่าในอีก 1 ปีข้างหน้านั้น เหรียญที่ตนเองขุดอยู่จะมีค่า Difficulty เพิ่มไปเท่าไร จะขุดได้เท่าไรด้วยเครื่องขุดในปัจจุบัน

ในเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน จะสังเกตุได้ว่าค่า Difficulty ของ Bitcoin เพิ่มขึ้นมามากกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ นักขุดที่ขุด Bitcoin ด้วย Antminer S9  ขุด Bitcoin ได้น้อยลงเกือบ 50 เปอร์เซ็น์จากค่า Difficulty ที่เพิ่มขึ้นภายในระยะเวลาไม่กี่เดือนเท่านั้น หรือกล่าวง่าย ๆ คือระยะเวลาในการคืนทุนเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่านั่นเอง และที่น่ากลัวคือสิ่งนี้เป็นปัจจัยที่นักขุดไม่สามารถควบคุมได้เลย

ราคาคริปโตที่ผันผวน

ทั้งนักขุดและเทรดย่อมทราบกันดีว่า ราคาของตลาดคริปโตนั้นผันผวนอย่างรุนแรง ราคาของ Bitcoin สามารถเพิ่มขึ้นหรือลดลง 100 เปอร์เซ็นต์ได้ในชั่วข้ามคืน ด้วยราคาที่ผันผวนนี้ สิ่งที่นักขุดวางแผนไว้ตอนแรกว่าอีก 3 เดือนต้องคืนทุนแน่นอน แต่พวกเขาอาจลืมคิดไปว่าการคำนวณแบบนั้นต้องสมมุติว่า ปัจจัยทุกอย่างในตอนนั้นคงที่ ซึ่งในความเป็นจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย เมื่อราคามันลดลงจากที่คิดไว้ว่า การคำนวณที่เขาวางแผนไว้ทั้งหมดย่อมเกิดการเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นขักขุดต้องคำนึงถึงปัจจัยนี้ และรับความเสี่ยงในส่วนนี้ให้ได้ด้วยเช่นกัน

เครื่องขุดออกรุ่นใหม่

โดยปกติในการขุดคริปโตไม่ว่าจะด้วยเครื่องขุด ASIC หรือ การ์ดจอก็ตาม ย่อมมีระยะเวลาในการคืนทุน อาจจะ 6 – 24 เดือนหากหักลบค่าไฟรายเดือน และอ้างอิงราคาจากเรทปัจจบัน ถ้าระหว่างนั้นก่อนที่การลงทุนจะคืนทุน บริษัทเครื่องขุดได้ออกการ์ดจอ หรือเครื่องขุดรุ่นใหม่ที่มีกำลังขุดมากกว่า, กินไฟน้อยกว่า หรือราคาถูกกว่าออกมา จะทำให้เครื่องขุดปัจจุบันของนักลงทุนที่ยังไม่คืนทุนนั้นเกิดการตกรุ่นได้ ส่งผลให้ไม่สามารถไปขุดแข่งกับนักขุดคนอื่น ที่ใช้เครื่องขุดใหม่ได้ ค่า Diff ในเครือข่ายก็จะเพิ่มขึ้น ผู้ที่ใช้เครื่องรุ่นเก่าจะขุดได้น้อยลง ทำให้ใช้ระยะเวลาคืนทุนที่นานขึ้นตาม

เช่น ในช่วงต้นปี 2018 เกิดเหตุการณ์ที่ อยู่ดี ๆ Bitmain ได้ประกาศเปิดตัวเครื่องขุด Antminer A3 สำหรับขุด Siacoin ซึ่งมีกำลังขุดที่มากกว่าการ์ดจอเป็นอย่างมาก เมื่อเครื่องขุดได้จัดส่งไปทั่วทั้งโลกค่า Difficulty ในเครือข่ายเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล จนทำให้นักขุดที่ขุดด้วยการ์ดจอไม่คุ้มค่าไฟอีกต่อไป เป็นต้น

เพราะฉะนั้นก่อนที่จะลงทุน ควรศึกษาให้แน่ชัดก่อนว่า เร็ว ๆ นี้บริษัทผลิตเครื่องขุดคริปโตทั้งหลายไม่มีท่าทีว่าจะออกรุ่นใหม่ออกมา

สรุป

ในตอนนี้ เราคงทราบกันแล้วว่าภาพที่วาดไว้สำหรับการขุดคริปโต ที่แค่ซื้อเครื่องขุดมา เสียบปลั้ก และนอนนับเงินเลย เป็นเรื่องที่ถูกแค่ครึ่งเดียว พวกเขาลืมคำนึงไปถึงปัจจัย ความเสี่ยงที่ไม่สามารถควบคุมได้ที่กล่าวไว้ในข้างต้นไป การขุดคริปโตจำเป็นต้องใช้ประสบการณ์ ความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถ พวกเขาต้องรู้ว่าต้องดูแลเครื่องขุดคริปโตอย่างไรให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตลอดเวลา ประสบการณ์ที่จะคาดเดา วิเคราะห์แนวโน้มได้ว่าเมื่อไรราคาของเหรียญจะเพิ่มหรือลด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ยากไม่แพ้นักเทรดเลยทีเดียว

ที่มาภาพ Blockchain.info , Siastats.info

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น