นาง Christine Lagarde หัวหน้าของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า โลกของเรากำลังเข้าใกล้วิกฤติทางการเงินอีกครั้ง
เธอได้กล่าวว่า “เศรษฐกิจระดับโลกกำลังจะเจอความท้าทายขนาดใหญ่เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งยิ่งใหญ่ (Great Depression) ครั้งที่สอง” และได้แสดงความกังวลถึงจำนวนของธนาคารใหญ่ ๆ, การปล่อยกู้ที่เพิ่มขึ้นของธนาคารนอกระบบในประเทศจีน และบริษัทประกันภัย หรือผู้ดูแลหลักทรัพย์ ที่ในขณะนี้กำลังดูแลเงินจำนวนหลายล้านล้านดอลลาร์อยู่
ปัจจุบัน จำนวนหนี้สาธารณะของภาคเอกชน และภาครัฐพุ่งขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 182 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่เหตุการณ์ภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ (Great Recession) เมื่อปี 2008
IMF ยังได้กล่าวถึง Cryptocurrency ด้วยว่า ควรให้ผู้ออกกฎหมายตื่นตัวตลอดเวลาต่อความเสี่ยงที่มาจาก Cryptocurrency และ Fintech:
“ถึงแม้มันจะมีประโยชน์มากมาย แต่จากที่เราดู ข้อดี ข้อเสียของมันยังคงไม่ชัดเจน เนื่องจากยังอยู่ในช่วงพัฒนา ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้นนั้นสร้างความท้าทายให้กับสถาบันการเงิน, โครงสร้างทางการเงิน และผู้ดูแล การพัฒนาของระบบต่าง ๆ ทางการเงินนั้นเป็นเครื่องเตือนใจว่าระบบทางการเงินนั้นพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่เคยหยุดนิ่ง ผู้ออกกฎหมายควรจะตื่นตัว และปรับตัวตามการปฎิวัติในครั้งนี้ รวมทั้งพร้อมเสมอในการลงมือจัดการเมื่อเวลามาถึง”
ก่อนหน้านี้ เธอเคยกล่าวไว้บนบล็อกของเธอว่า เงินดิจิทัลนั้นจะเข้ามามีบทบาทในการที่คนเก็บออม, ลงทุน และจ่ายบิลได้ รวมทั้งสำหรับประเทศที่กำลังพัฒนา เทคโนโลยีดังกล่าวจะสามารถรับรองสิทธิทางปัญญา, เพิ่มความมั่นใจให้กับตลาด และส่งเสริมการลงทุนได้อีกด้วย
ที่มา News BTC
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น