สถานการณ์ของผลกำไรที่ได้น้อยลงจากการขุดเหรียญคริปโตทำให้บริษัทผลิต GPU สัญชาติไต้หวันอย่าง Nvidia ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2018 ทางบริษัทประสบกับภาวะเทขายหุ้นครั้งใหญ่ ทำให้ราคาหุ้นบริษัทตกลงกว่า 54 เปอร์เซ็นต์ ทำให้หุ้นของบริษัทเป็นหุ้นในดัชนี S&P 500 ที่แย่ที่สุด
ตั้งแต่ปี 2016 จนกระทั่งถึงเดือนกันยายนปี 2018 มูลค่าตลาดของ Nvidia เพิ่มขึ้นจาก $14 พันล้านเป็น $175 พันล้านเนื่องจากความต้องการ GPUs AI ของบริษัทเพื่อนำมาขุดเหรียญคริปโตมีเพิ่มมากขึ้น ต่อมาในเดือนพฤษภาคมทางบริษัทรายงานผลกำไรที่ได้เป็นครั้งแรกและคาดว่าการขายให้กับนักขุดจะลดลง 2 ใน 3 ในช่วงไตรมาสที่ 2
แรกเริ่มทาง Nvidia คาดการณ์ยอดขาย GPU ในช่วงไตรมาสที่ 3 แต่ในเดือนพฤศจิกายนจากรายงานไม่ปรากฏยอดขาย GPU ที่นำไปใช้เกี่ยวกับ Blockchain
จากคำกล่าวของนาย Jensen Huang CEO ของ Nvidia บอกว่าคริปโตเคอร์เรนซีทำให้ราคา GPU ของ Nvidia พุ่งสูงขึ้น แต่เมื่อความต้องการลดลง ราคา GPU ก็ยังไม่ได้ลดลงทันทีที่จะทำให้ลูกค้ารายอื่นที่ไม่ได้มีเงินทุนมากนักหันมาซื้อ GPU
นอกจากการลดลงของยอดขายการ์ดจอขุดแล้วนั้น ในหมวด data center ของ Nvidia ก็ไม่เป็นไปตามเป้าของนักลงทุนเช่นกัน แม้ว่าจะมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นถึง 58% (อ้างอิงจาก CNBC) ทว่าในวันนี้ หุ้นของ Nvidia นั้นร่วงลง 4.09% และปิดตัวที่ 129.57 ดอลลาร์
ตลาดหุ้นของชิปโดยรวมราคาลดลง อ้างอิงจาก PHLX Semiconductor Index พบว่าผู้ผลิต Hardware รายใหญ่อย่าง Nvidia และ Advanced Micro Systems (AMD) มีราคาหุ้นตกลงกว่า 20.37 เปอร์เซ็นต์ภายใน 3 เดือน โดยราคาหุ้นของ AMD ตกลง 45.42 เปอร์เซ็นต์ในช่วงเวลาเดียวกัน
การขาย Hardware สำหรับการขุดก็ลดลงเช่นกัน โดยตัว GPU RX580 ของ AMD ที่ใช้อย่างแพร่หลายในวงการการขุดถูกขายในราคา $180 ซึ่งลดลงกว่า 67 เปอร์เซ็นต์จากราคาสูงสุดที่เคยมีราคาขายอยู่ที่ $550 ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2018
ผลกำไรที่ได้น้อยลงเนื่องจากสภาวะตลาดหมีในช่วงนี้ทำให้นักขุดล้มเลิกการขุด บริษัทที่ขาย Hardware สำหรับการขุดในจีนก็แห่กันชั่งกิโลขาย Hardware เพื่อเยียวยาการขาดทุน จากรายงานพบว่ารายได้จากการขุดไม่สามารถนำมาจ่ายค่าไฟฟ้าและต้นทุนอื่น ๆ สำหรับทำการขุดได้
ที่มา cointelegraph
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น