แฮ็กเกอร์ลึกลับทำการข่มขู่ให้โอน Bitcoin ไม่งั้นจะปล่อยความลับในเหตุการณ์ 9/11 ให้โลกรู้
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา กลุ่มแฮ็กเกอร์นาม The Dark Overlord (กลุ่มแฮ็กเกอร์ระดับมืออาชีพที่เคยแฮ็ก Netflix และข้อมูลสำคัญอื่น ๆ มากมาย) ได้โพสต์ข้อความบน Pastebin ว่า จะทำการปล่อยข้อมูลปริมาณ 10 GB ที่มีความลับของเหตุการณ์ 9/11 อยู่ในนั้น
กลุ่มดังกล่าวเคลมว่า เอกสารในนั้นระบุเรื่องราวทั้งหมดไว้ว่า มีอะไรเกิดขึ้นจริง ๆ ในวันที่เกิดเหตุ ซึ่งพวกเขาเคลมว่า มีเอกสารลับกว่า 18,000 ฉบับ ข้อมูลเหล่านั้นอยู่ในรูปแบบของจดหมาย, อีเมลและเอกสารอื่น ๆ อีกมากมายที่เกี่ยวข้องกับบริษัทด้านกฎหมาย, หน่วยงานด้านการขนส่ง, หน่วยงานด้านการบินและอื่น ๆ อีกมาก
It’s not just insurance litigation that we have, it’s CONFIDENTIAL, CLASSIFIED, and SECRET documents from FAA, FBI, TSA, USDOJ, and others. pic.twitter.com/7LaC8TaNAQ
— thedarkoverlord (@tdo_h4ck3rs) January 1, 2019
ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพื่อถอนชื่อออก
พวกเขาได้เคลมว่า สามารถเข้าถึงข้อมูลเอกสารเหล่านี้ได้เนื่องจากไปแฮ็กมาจาก Lloyds of London, Hiscox และ Silverstein Properties ซึ่งเป็นเจ้าของตึก World Trade Center
กลุ่มดังกล่าวได้อธิบายว่า จริง ๆ แล้วข้อมูลเหล่านั้นควรเป็นความลับสุดยอดของรัฐบาล และต้องถูกจำกัดทิ้งทั้งหมด แต่มันกลับถูกเก็บไว้โดยบริษัทด้านกฎหมาย ซึ่งได้ระบบรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์ 9/11 ไว้
เหตุการณ์ 9/11 นั้นเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ก่อการร้ายครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ ในวันที่ 11 กันยายน 2001 มีการโจมตีพลีชีพต่อเนื่อง 4 ครั้งด้วยการใช้เครื่องบินพุ่งไปชนตึก World Trade Center ทำให้ตึกถล่มและเกิดความวุ่นวายมากมาย มีผู้เสียชีวิตเกือบ 3,000 คน ซึ่งเหตุการณ์นี้ถูกเชื่อว่า เกิดจากกลุ่มอิสลามหัวรุงแรงอัลกออิดะฮ์ แต่ความเป็นจริงนั้นไม่มีใครทราบว่า ใครกันแน่ที่เป็นผู้ที่ก่อเหตุจริง ๆ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ค้างคาใจผู้คนทั่วโลกมาหลายสิบกว่าปีแล้ว และยังคงลึกลับอยู่จนถึงทุกวันนี้
The Dark Overlord ได้ยื่นข้อเสนอว่า ให้จ่ายเงินค่าธรรมเนียมเป็น Bitcoin หากต้องการให้ลบชื่อจากเอกสารที่พวกเขากำลังจะเผยแพร่นี้ ซึ่งไม่ได้มีระบุว่าจำนวนเท่าไร
เมื่อปี 2016 กลุ่มดังกล่าวเคยแฮ็กข้อมูลของคลินิกแห่งหนึ่งและนำข้อมูลนั้นไปขายใน Dark Web ก่อนที่เหยื่อจะยอมจ่ายเงินให้เพื่อลบข้อมูลเหล่านั้น และเมื่อปีที่ผ่านมา ยังเคยแฮ็ก Netflix เพื่อแอบปล่อยซีรีย์ Orange is the New Black ออกมาทั้งซีซันเลยอีกด้วย ซึ่งในรอบนี้พวกเขาไม่ได้ระบุว่าเมื่อไรจะปล่อยข้อมูล แต่นี่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก ที่ผู้คนรับรู้ว่า Bitcoin ถูกใช้เป็นเครื่องมือของแฮ็กเกอร์ได้
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น