เมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา ธนาคาร Bank for International Settlement (BIS) ได้ตีพิมพ์รายงาน ซึ่งมีการระบุว่า ปัญหาต่าง ๆ ของ Bitcoin นั้นจะสามารถถูกแก้ไขได้ด้วยการแยกตัวออกจากระบบ Proof-of-work
BIS เป็นองค์กรที่มีธนาคารกลางเป็นสมาชิกมากกว่า 60 แห่งทั่วโลก ซึ่งมีรายงานว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับ GDP กว่า 95 เปอร์เซ็นต์ของทั้งโลก
ปัญหาที่ BIS เจอ
อ้างอิงจากรายงาน ในขณะที่ Bitcoin ให้รางวัลต่อ Block น้อยลงเรื่อย ๆ ค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมอย่างเดียวจะไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในการขุด ซึ่งจะทำให้คนเลิกขุด และทำให้เครือข่ายมีความเชื่องช้าจนไม่สามารถใช้งานได้:
“จากการคำนวณง่าย ๆ ถ้ารางวัลต่อ Block นั้นเกือบจะเป็นศูนย์ มันจะใช้เวลาอีกเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้นที่ Bitcoin จะถึงการสิ้นสุด ยกเว้นแต่มีเทคโนโลยีใหม่ที่ทำให้ความเร็วในการทำธุรกรรมมากขึ้น”
รายงานได้ชี้ว่า Protocol อย่าง Lightning Network นั้นสามารถช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ หรืออีกวิธีหนึ่งที่แก้ไขได้คือการหยุดใช้งาน Proof-of-work แต่ก็จำเป็นต้องใช้ความร่วมมือของชุมชนคริปโตถึงจะเปลี่ยนได้
Proof-of-work เป็น Algorithm ที่เป็นกลไกในการหาเสียงส่วนมากของ Bitcoin มันทำให้ในเครือข่ายมีการขุดเกิดขึ้น ถึงแม้มันจะเป็น Algorithm ที่ Bitcoin ใช้มากว่า 10 ปีแล้ว แต่จริง ๆ แล้ว มันก็มีข้อเสียในระบบดังกล่าวเยอะเหมือนกันเช่น การใช้พลังงานที่สิ้นเปลือง, การสร้างมลภาวะให้กับสิ่งแวดล้อม และอื่น ๆ อีกมาก ทำให้เหรียญคริปโตส่วนมากในช่วงหลัง ๆ หันไปใช้ Algorithm Proof-of-stake แทนนั่นเอง
BIS นั้นคอยตีพิมพ์กับรายงานเกี่ยวกับคริปโตอยู่เสมอ ๆ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาธนาคาร BIS ก็รายงานเช่นกันว่า ราคาของคริปโตนั้นมีความเกี่ยวข้องกับข่าวด้านกฎหมายเช่นกัน เรียกได้ว่า พวกเขาก็ยังคอยดูห่าง ๆ อย่างเงียบ ๆ นั่นเอง ถึงแม้จะไม่ได้เข้ามามีบทบาทมากนัก ซึ่งคาดว่าอาจเป็นเพราะพวกเขาเป็นธนาคาร จึงไม่สามารถแสดงตัวว่าให้การสนับสนุนคริปโตได้อย่างโจ่งแจ้ง
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น