ปริศนาการเข้ารหัสลับดิจิตอลที่ยากที่สุดที่เป็นปริศนามานานกว่า 20 ปีได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้วโดยตอนนี้หลักฐานทั้งหมดถูกเก็บรักษาไว้ใน Blockchain ของ Bitcoin Cash ซึ่งความสำเร็จในครั้งนี้เร็วกว่าที่ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ไว้กว่า 15 ปีด้วยกัน โดยมันอยู่ในช่วงเดียวกับที่พวกเขาทำการเปิด time capsule อีกด้วย
กฎของมัวร์ได้ประมาณการณ์ไว้ว่าปริศนานี้จะใช้เวลาถึง 35 ปีในการแก้ไข โดยปริศนาดังกลาวได้ถูกคิดขึ้นเมื่อตอนเมษายนปี 1999 โดยผู้ที่แก้ไขปริศนานี้ได้คือพนักงานจาก Massachusetts Institute of Technology (MIT) ได้ไขปริศนาที่คาดว่าจะถูกแก้ในอีก 35 ปีข้างหน้าอย่างไรก็ตามเมื่อเดือนที่แล้วนาย Bernard Fabrot โปรแกรมเมอร์ที่สถาบัน MIT ได้ออกมาบอกว่าเขาสามารถไขปริศนานี้ได้แล้ว โดยใช้เวลาในการไขปริศนานี้กว่า 3 ปีครึ่งด้วยกันที่ทำงานเกี่ยวกับปริศนานี้โดยเขาได้อธิบายไว้ว่า :
“ปริศนาดังกล่าวมีรูปแบบกว่า 80 ล้านล้านแบบโดยได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อป้องกันใครก็ตามที่พยายามจะแก้ไขปัญหาได้เร็วขึ้นกว่าเดิมโดยใช้การคำนวณแบบขนาน (parallel computing)”
ไม่นานหลังจากที่ Bernard Fabrot สามารถไขปริศนาได้ ทางด้านศาสตราจารย์ Ron Rivest จาก MIT ผู้ที่สร้างปริศนาและแคปซูลเวลานี้ขึ้นมาได้กล่าวไว้ว่า :
“ความก้าวหน้าทางด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เกินกว่าที่ผมคาดการณ์ไว้ในปี 1999 ความท้าทายของปริศนานี้คือรูปแบบกว่า 80 ล้านล้านแบบซึ่งมันยากมาก ๆ ที่จะแก้ได้เร็วขนาดนี้แต่ทว่าดูเหมือนด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีจะทำให้ให้การคาดการณ์ของผมลดลงไปมากทีเดียว”
แคปซูลเวลาที่ถูกเปิดก่อนกำหนด
เมื่อปริศนาที่เกิดขึ้นในปี 1999 ถูกค้นพบเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ MIT จึงจะเปิดแคปซูลเวลาที่ออกแบบโดยสถาปนิก Frank Gehry ซึ่งในนั้นมีสิ่งของทางประวัติศาสตร์ที่ล้ำค่ามากมายที่เป็นของบุคคลสำคัญอยู่ในนั้นเช่นของ Tim Berners-Lee, Ethernet co-inventor Bob Metcalfe และ Bill Gates. โดยเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมได้มีการเปิดแคปซูลนี้อย่างเป็นทางการ
โดยในเหตุการณ์เปิดแคปซูลนั้นมีผู้เข้าร่วมมากมายทั้งผู้สร้างและผู้ที่ไขปริศนานี้ได้โดยการแก้ไขปริศนาในครั้งนี้ของนาย Bernard Fabrot ได้บันทึกหลักฐานการแก้ไขปริศนาและประทับตราและเก็บไว้อย่างถาวรใน Bitcoin Cash blockchain ใน OP_RETURN ในวันที่ 20 เมษายนและบน BTC blockchain 5 วันต่อมาโดยถูกเก็บไว้บน Coinbase บน Block ที่ 573138
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น