ช่วงก่อนหน้านี้นั้นประเทศตุรกีต้องประสบพบเจอกับปัญหาทางด้านเศรษฐกิจมาอย่างยาวนานและเรื้อรังแต่หลังจากที่เริ่มฟื้นตัวได้นั้นดูเหมือนว่าความต้องการของประชาชนในการสะสมหรือเข้าซื้อ Bitcoin จะมีมากขึ้นอย่างน่าสนใจ
โดยจากรายงานของทาง CCN ได้ออกมาเผยถึงรายงานว่าจากผลสำรวจกว่า 14 ประเทศด้วยกันในกลุ่มสำรวจพบว่าประชาชนในประเทศตุรกีดูจะมีแนวโน้มที่ Bitcoin จะใช้มากขึ้น ซึ่งหากลงไปดูจะพบว่าในInternationale Nederlanden Groep – ING ที่เป็นบริษัทเนเธอร์แลนด์ ให้บริการด้านการธนาคาร การเงิน ประกันภัย และการบริหารสินทรัพย์ พบว่าร้อยละ 62 ของชาวเติร์กที่เป็นชนชาติตุรกี พวกเขายินดีที่จะจ่ายเป็น Bitcoin ตรงกันข้ามกับกลุ่มชาว Osterreich ที่มีข้อกังขาต่อ Bitcoin ด้วยเปอร์เซ็นต์ที่น้อยที่สุดอยู่ที่ 13 เปอร์เซ็นต์
จากข้อมูลเบื้องต้นนั้นเราจะพบว่ามันค่อนข้างสอดคล้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้นั้นก็คือในเรื่องของเศรษฐกิจตุรกีที่หยุดชะงักลงและความไม่มั่นใจของผู้คนในประเทศตุรกีเองทำให้คนเริ่มหันมาสนใจ Bitcoin กันมากขึ้น
อุตสาหกรรมของตุรกีกำลังจะกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง
แน่นอนว่าวิกฤตการณ์ทางการเงิน Lira เมื่อปี 2018 ทำให้ในตอนนี้พวกเขากำลังคลำทางกลับมาอย่างถูกต้องอีกครั้งแม้จะต้องยากลำบากหน่อยก็ตามโดยนาย Nora Neuteboom นักเศรษฐศาสตร์ของ ABN Amro economist ได้ออกมาวิเคราะห์ว่าเศรษฐกิจของตุรกีจะฟื้นตัวในปีนี้เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้นหลังจากผ่านความโหดร้ายมา
Our new #Turkey Watch
• Turkey is more resilient than a year ago but we expect a very modest recovery from the current low levels
• Inflation is rapidly decreasing, to an estimated 15% end-of-year and we foresee further aggressive cuts (425bp for 2019)https://t.co/I8SQMYqmwv— Nora Neuteboom (@naneuteboom) August 13, 2019
และจากข้อมูลของ Reuters พบว่าการผลิตในภาคอุตสาหกรรมของประเทศตุรกีนั้นลดลงอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเวลากว่า 10 เดือนแล้ว ซึ่งในขณะเดียวกันกิจกรรมการผลิตก็ลดลงติดต่อกันไม่ตำ่กว่า 15 เดือน ด้านนาย Hilmi Yavas นักเศรษฐศาสตร์ของ Yatirim Finansman กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่าเหตุผลที่ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เป็นเพราะว่าความต้องการซื้อของทุกคนลดลงอย่างแรงเป็นผลมาจากกาวิกฤตการณ์ทางการเงิน Lira
“ เนื่องจากความแข็งแกร่งของการส่งออกการผลิตภาคอุตสาหกรรมแต่กลับตรงกันข้ามกับความต้องการซื้อจากต่างประเทศทำให้หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะพบกับการชลอตัวของเศรษฐกิจและอุตสหกรรมในภาคส่วนของการส่งออกนี้ซึ่งมันได้เริ่มส่งผลกระทบอย่างช้า ๆ กับพวกเราเเล้ว”
ในขณะเดียวกันรัฐบาลตุรกีเองก็พึ่งมีการประกาศขาดดุลงบประมาณเป็นจำนวน 68.7 พันล้านลีร่าตุรกี (12.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ) สำหรับช่วงเจ็ดเดือนแรกของปี
Bitcoin เป็นทางออก
จากเหตุผลข้างต้นทั้งหมดและด้วยความไม่สงบทางเศรษฐกิจอย่างมาก ทำให้ผู้อยู่อาศัยของประเทศตุรกีจำนวนมากจึงเริ่มที่จะหันมาใช้ bitcoin เพื่อความมั่นคงทางการเงินที่มากขึ้น
ปัจจุบันลีร่าเป็นสกุลเงินประจำชาติที่มีการซื้อขาย Bitcoin มากที่สุดเป็นอันดับที่ 7 ด้วยสกุลเงินดิจิตอลโดยในการสำรวจล่าสุดจาก ทาง Statista พบว่าประเทศตุรกีเป็นผู้นำประเทศอื่น ๆ ในการใช้สกุลเงินดิจิตอลถึง 20 เปอร์เซ็นต์
แน่นอนว่าตุรกีไม่ใช้ประเทศเดียวที่ประชาชนะคิดเห็นแบบนี้เพราะในอเจนตินาเองก็มีการซื้อ Bitcoin ไว้ตั้งแต่เมื่อปีที่แล้วสำหรับวิกฤติทางเศรษฐกิจของพวกเขาด้วยเช่นกัน รวมถึงที่เราเห็นกันชัดๆ คือประเทศ เวเนซุเอลา เองประชาชนก็หันมาใช้ Bitcoin และคริปโตกันอย่างแพร่หลายมากขึ้นทางด้านของนาย Brian Fonseca ผู้ช่วยศาสตราจารย์ที่ Florida International University บอกกับ inverse.com ว่า“ เวเนซูเอล่ากำลังจะเปลี่ยนไปใช้เหรียญคริปโตทั้งหมด เพื่อเป็นหนทางรอบจากเงินเฟ้อและสกุลเงินที่ไม่มั่นคงของประเทศตัวเอง”
#Bitcoin will become a factor for Turks as Hard Money becomes hard to come by. https://t.co/bD5iw2mLMs
— Max Keiser, tweet poet. (@maxkeiser) May 21, 2019
เว็บเทรดคริปโตเข้ามามีบทบาท
จากที่กล่าวมาประเทศต่าง ๆ รวมถึงตุรกีเอง ถูกดึงดูดให้เข้ามาใช้ bitcoin อันเป็นเพราะว่าพวกมันไม่สามารถถูกควบคุมได้โดยรัฐบาลและไม่ได้อยู่ภายใต้การปกครองของประเทศใดประเทศหนึ่งได้อย่างเต็มที่
Rayne Steinberg ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Arca ซึ่งเป็นกองทุน Crypto จาก Los Angeles กล่าวกับทาง Bloomberg ว่า
“ Bitcoin กำลังจะมาเป็นสินทรัพย์สุดท้ายเพื่อหลบเลี่ยงความไม่มั่นคงของค่าเงินต่าง ๆ และความไม่แน่นอนทางการเมืองของแต่ละประเทศ อย่างเช่นเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมามูลค่า Bitcoin สูงขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงิน Argentine peso ในตลาด Exchage ท้องถิ่นซึ่งคล้าย ๆ กับที่เวเนซุเอลา ฮ่องกงและ ตุรกีซึ่งเคยประสบกับปัญหาที่คล้ายคลึงกันนั้นเอง”
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น