Hester Peirce กลายเป็นที่รู้จักกันในชื่อ ‘crypto mom’ หลังจากที่เธอพูดถึงคริปโตไปในข่าวเมื่อเร็ว ๆ นี้ เธอกล่าวว่า หน่วยงานกำกับดูแลของสิงคโปร์ได้เปิดกว้างมากขึ้นสำหรับการมีส่วนร่วมและพูดคุยกับชุมชน ซึ่งเธออ้างว่าได้รับความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมคริปโตเคอเรนซี่มาจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของสิงคโปร์
ในระหว่างการสัมภาษณ์กับทาง Longhash พวกเขาระบุว่า อนาคตของคริปโตอาจตกอยู่ในเอเชียและไม่ใช่ในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากสหรัฐฯได้สั่งห้ามไม่ให้การซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโตในประเทศ ซึ่งนี่อาจทำให้เอเชียกลายเป็นจุดศูนย์กลางใหม่สำหรับกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซี่และการขุดเหมืองคริปโต
นอกจากนี้ศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญของเอเชียยังมีข้อได้เปรียบในเรื่องของกฎระเบียบที่เอื้ออำนวยกับสกุลเงินดิจิทัลและการลงทุนคริปโตเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ความชัดเจนในกฎระเบียบข้อบังคับได้ทำให้สิงคโปร์กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักเทรดคริปโตหน้าใหม่และนักเทรดรุ่นเก๋า ในความเป็นจริงแล้วสิงคโปร์เป็นเจ้าภาพในการขายเหรียญระดมทุนเริ่มต้น (ICO) มากกว่าสหรัฐอเมริกาเสียอีก
สิงคโปร์เป็นฐานที่ตั้งของโปรเจ็ค smart contract มากกว่า 40% ของโทเค็นทั้งหมดที่เปิดขายในปี 2017-2018 ซึ่งนี่หมายความว่าสิงคโปร์ได้ยอมรับคริปโตเคอเรนซี่อย่างเปิดเผยและมีทัศนคติที่ตรงข้ามกับเขตอำนาจศาลอื่น ๆ
เมื่อดูจากกราฟ จะสังเกตเห็นได้ว่าโปรเจ็ค ICO เป็นวิธีระดมทุนยอดนิยมสำหรับบริษัทสตาร์ทอัพคริปโตเคอเรนซี่และ ICO เหล่านี้ได้เริ่มลดลงในสหรัฐอเมริกาและเพิ่มขึ้นในสิงคโปร์แทน และดูเหมือนว่า ประเทศในยุโรป , สวิตเซอร์แลนด์และสหราชอาณาจักร (UK) จะอยู่ในอันดับที่สามและสี่ โดยมีรัสเซียอยู่อันดับสุดท้ายของรายการ นอกจากนี้ Peirce ยังได้เปิดเผยอีกด้วยว่า รัฐบาลในตลาดเอเชียกำลังมองคริปโตเคอเรนซี่เป็นโอกาสแทนที่มองว่ามันเป็นภัยคุกคาม
“สิ่งที่เราต้องการจริง ๆ ก็คือโลก [ICOs] ที่เป็นโทเค็นยูทิลิตี้หรือโทเค็นสำหรับการชำระเงินและนี่คือสิ่งที่ฉันคิดว่าสิงคโปร์คิดได้ตรงประเด็นมากกว่าเรา และถ้าคุณไปถึงจุดนั้น ฉันไม่แน่ใจว่าคุณจะสามารถใช้กรอบกฎหมายหลักทรัพย์ในแบบที่เรามีมาประยุกต์ใช้กับมันได้”
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น