John McAfee ทำมันได้อีกครั้ง ผู้ทรงอิทธิพลในวงการคริปโตที่เรารู้จักกันดีปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับแบตเตอรี่ที่ชาร์จใหม่อย่างเต็มเปี่ยมและประกาศการเปิดตัวเว็ปซื้อขายแบบกระจายอำนาจ(decentralized exchange)ที่มีชื่อเรียกว่า McAfee Magic

อ้างอิงรายงานจาก BeInCrypto ที่เผยว่าก่อนหน้านี้ McAfee DEX ได้มีการเปิดตัวแพลตฟอร์มขายคริปโตในรุ่นเบต้า เนื่องจาก McAfee ต้องการสร้างแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์สที่ไม่มีการเปิดเผยตัวตน ซึ่งนั่นจะทำให้การซื้อขายคริปโตบนแพลตฟอร์มไม่มีการ KYC หรือนโยบาย AML เข้ามาเกี่ยวข้อง เขามีแรงจูงใจทางปรัชญาที่เกินกว่าแง่มุมทางเศรษฐกิจและนี่มันเป็นสิ่งที่ชัดเจนมากสำหรับข้อความที่เขาส่งไปยังผู้ติดตาม :

“ผมแค่อยากให้มันสำเร็จ เพราะมันเป็นสิ่งที่สำคัญมาก นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของเราไม่ใช่กับผม แต่ด้วยเว็ปซื้อขายแบบกระจายอำนาจนี่ คุณต้องใช้มันตอนนี้

รัฐบาลต่างกลัวคริปโต , กลัวเราและพวกเขาจะทำทุกอย่างเพื่อหยุดยั้งเรา แต่พวกเขาไม่สามารถหยุดเว็ปขายซื้อแบบกระจายอำนาจได้ โปรดไตร่ตรองเกี่ยวกับสิ่งนี้”

การโจมตี DDoS ที่รวดเร็ว

“McAfeedex.com รุ่นเบต้าได้เปิดออนไลน์แล้ว เล่นกับมันซะ” McAfee กล่าวเมื่อ DEX ของเขาเปิดตัวและพยายามให้ผู้ใช้ลองทดสอบมันดู เพียงหนึ่งชั่วโมงหลังจากการประกาศแพลตฟอร์มเว็ปไซต์ก็ได้ถูกโจมตีด้วย DDoS เป็นครั้งแรก

As could have been predicted. Dex Speed has slowed due to the humorous DDOS attacks that follow my every release of anything:). We're adding nodes and speed should be up to par in a few moments. I love the negative adoration of my trolls. They are proof I'm doing something right.

— John McAfee (@officialmcafee) October 7, 2019

อย่างไรก็ตามมันยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินแพลตฟอร์มนี้เพียงเพราะการโจมตีเพียงครั้งเดียว เนื่องจากเราทราบกันดีว่านาย John McAfee นั้นเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัย ซึ่งในระยะยาวเขาต้องมีทางออกให้กับเรื่องนี้อย่างแน่นอน

McAfee อธิบายว่าผู้ใช้ไม่มีอะไรต้องกังวล จำนวนที่เพิ่มขึ้นของโหนดจะทำให้การโจมตีประเภทนี้ทำได้ยากมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป นอกจากนี้สถาปัตยกรรมแพลตฟอร์มของเขายังทำให้มันกลายเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยที่เงินของผู้ใช้จะเสียหาย เนื่องจากเงินเหล่านี้อยู่ในบล็อกเชนและไม่อยู่ภายใต้การดูแลของแพลตฟอร์มซื้อขายหรือบุคคลที่สาม

John McAfee ผู้ที่มีชื่อเสียงมาจาก Cryptocurrency

การได้รับการยอมรับของ McAfee ในวงการคริปโตนั้นไม่ต้องสงสัยเลย โดยเมื่อย้อนกลับไปในปี 2017 ทวีตที่เขาพูดถึง altcoin นั้นเพียงพอแล้ว สำหรับการพุ่งขึ้นของเหรียญ Verge (XVG), Tron (TRX) และ Reddcoin (RDD) ซึ่งเป็นคริปโตเคอเรนซี่ที่เขาแนะนำบางส่วน

ในปีเดียวกันนั้นทางสำนักข่าว BeInCrypto ได้รายงานเกี่ยวกับ McAfee ซึ่งนั่นเป็นการทำนายราคาที่โด่งดังที่สุด โดยเขากล่าวว่า Bitcoin จะพุ่งแตะ 1 ล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนที่ Bitcoin จะกลายเป็นหนึ่งในประวัติการณ์ที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ อย่างไรก็ตามเขาไม่เสียใจและยังคงเชื่อมั่นในการคาดการณ์ของเขา

การเคลื่อนไหวครั้งสุดท้ายของ McAfee ก่อนที่เขาจะเข้าสู่โลกแห่งการแลกเปลี่ยนนั้นมาจาก Zombiecoin ซึ่งเป็นโปรเจคที่จ่ายเงินให้เขาหลายล้านดอลลาร์ที่สร้าง whitepaper สำหรับสกุลเงินดิจิทัลที่จะเป็นประโยชน์อย่างมากในกรณีของวันโลกาวินาศที่มีซอมบี้เกิดขึ้น

To my critics: it isn't my job to determine the validity of @china_zombie 's claim that zombies exist. My job us to ensure that the white paper for the CZ coin is factual and informative regarding all aspects that affect the creation, distribution and use of the coin. That's all. pic.twitter.com/MpblMpSVE5

— John McAfee (@officialmcafee) August 24, 2019

และนั่นยังไม่จบ

We are sue Mr. McAfee for make us look like fool. We not understand why White Paper say such bad things for us. We finish for Mr. McAfee. Things not true. We serious research. World must see. Zombie threat threat real and must be approach now by whole world.

— South China Zombie Research Centre (@china_zombie) September 5, 2019

ดูเหมือน McAfee จะไม่สนใจว่าโปรเจคจะไร้สาระหรือโง่เขลาแค่ไหนสำหรับเขา ตราบใดที่มันยังคงโลดแล่นอยู่บน blockchain และอยู่นอกเหนือการควบคุมของรัฐบาล มันก็คู่ควรที่จะสนับสนุน แม้ว่าจะเห็นได้ชัดว่ามันไม่ค่อยมีประโยชน์ก็ตาม

ในขณะที่เรากำลังเฝ้าจับตาดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับ McAfeeDEX ในขณะเดียวกันการสัมภาษณ์ระหว่างสำนักข่าว BeInCrypto และ Mr. McAfee อาจมีการพูดถึงความคิดของเขาเกี่ยวกับ Libra, Binance, หรือสถานการณ์อื่น ๆ อีกมากมายในอุตสาหกรรมนี้

ที่มา : beincrypto