ในช่วงเมื่อวานนี้ ประเทศอังกฤษได้มีการอัพเดทข่าวสารเกี่ยวกับคริปโต โดยคณะผู้ร่างกฎหมายได้จัดประเภทสกุลเงินดิจิทัลให้กลายเป็นทรัพย์สินแล้ว เนื่องจากรัฐบาลเริ่มมองเห็นประโยชน์จากการใช้งานโทเค็นบนเทคโนโลยี บล็อกเชน
คริปโตเป็นทรัพย์สิน
ในขณะที่สหรัฐฯ ยังคงมีการถกเถียงกันในเรื่องคำจำกัดความของสกุลเงินดิจิทัล อังกฤษก็ได้แซงไปข้างหน้าโดยทำการจัดประเภทสกุลเงินคริปโตเป็นทรัพย์สินอย่างถูกต้อง ซึ่งมีคณะกรรมการที่นำโดยนาย Geoffrey Vos ผู้พิพากษาศาลระดับอาวุโสที่เพิ่งได้แถลงการณ์ทางกฎหมายเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยได้จัดการกับความไม่แน่นอนเกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซี่และ Blockchain
อ้างอิงจากสื่อข่าว The Times ที่ระบุว่า การให้คำปรึกษากับประชาชนครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความชัดเจนสำหรับการนิยามความหมายของสกุลเงินดิจิทัล โดยนาย Vos อธิบายเพิ่มเติมว่า :
“คำตอบสำหรับคำถามทางกฎหมายเหล่านี้จะเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับการใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ คริปโต (cryptoassets) และสัญญากฏหมายอัจฉริยะ (smart legal contracts)”
ในแถลงการณ์ทางกฏหมายมีการระบุไว้ว่า สินทรัพย์คริปโตทั้งหมดล้วนเป็นเครื่องหมายของทรัพย์สิน ซึ่งนั่นหมายความว่าสินทรัพย์คริปโตทั้งหมดจะมีสถานะทางกฎหมายเช่นเดียวกับทรัพย์สินของประเทศ โดยมีการอธิบายไว้ดังต่อไปนี้ :
“คุณสมบัติที่แปลกใหม่หรือเป็นคุณสมบัติพิเศษของสินทรัพย์คริปบางตัวที่มีการใช้งานร่วมกันได้, การพิสูจน์ตัวตนแบบเข้ารหัสลับ , การใช้บัญชีแยกประเภทแบบกระจาย, การกระจายอำนาจและการใช้กฏความเห็นพ้อง (consensus) นั้นจะไม่ถูกตัดสิทธิ์ออกจากการเป็นสินทรัพย์”
การตัดสินใจในครั้งนี้ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับชุมชนคริปโต เนื่องจากว่ามันได้ช่วยเพิ่มการยอมรับให้กับสินทรัพย์ cryptocurrency และ smart contract ในประเทศอังกฤษ นอกจากนี้มันยังช่วยเพิ่มข้อได้เปรียบในเชิงกลยุทธ์ให้กับบริษัทสตาร์ทอัพบล็อกเชนในประเทศอีกด้วย
Lawtech ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลและเป็นส่วนหนึ่งของคณะกรรมการด้านกฎหมายของอังกฤษที่เพิ่งมีการแถลงการณ์เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยนาง Jenifer Swallow ผู้อำนวยการของ Lawtech Delivery Pane ได้กล่าวว่า :
“มันเป็นเรื่องดีที่เราจะได้เห็นการรวมระบบกฎหมายเข้ากับเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดย Tech Nation รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ได้ร่วมงานกับ Lawtech Delivery Panel สำหรับแนวคิดริเริ่มในครั้งนี้เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจความชัดเจนในด้านกฎหมายและวิวัฒนาการของเทคโนโลยี”
โดยเธอได้คาดการณ์ว่าตลาด smart contract ทั่วโลกจะพุ่งสูงถึง 300 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2023 และ GDP ของเศรษฐกิจโลกกว่า 10% จะถูกเก็บไว้ในเทคโนโลยีบล็อกเชนภายในปี 2027
นอกจากนี้นาง Christina Blacklaws ประธานของ Lawtech Delivery Panel ยังได้กล่าวด้วยว่า :
“มันเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมากที่เห็นได้ว่า กฎหมายของอังกฤษและเวลส์นั้นจะไม่มีปัญหาต่อการใช้เทคโนโลยีใหม่นี้ ดังนั้นหมายความว่านี่จะเป็นการยอมรับสินทรัพย์คริปโตในฐานะทรัพย์สินที่สามารถซื้อขายกันได้และสัญญาอัจฉริยะที่สามารถบังคับใช้ได้”
ในขณะที่สหรัฐฯยังคงติดแหง็กอยู่กับกฎระเบียบข้อบังคับของตัวเอง ในขณะเดียวกันจีนและอังกฤษก็กำลังมุ่งหน้าเข้าสู่เรื่องของบล็อกเชนและคริปโตอย่างเต็มตัว
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น