ประเด็นเรื่องภาษีคริปโตถือเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจมากในทุกวันนี้ ซึ่งล่าสุดสหรัฐฯ ได้มีการออกกฎหมายโดยใช้กำหนดข้อยกเว้นทางภาษีที่ทำให้ผู้ถือคริปโตไม่จำเป็นต้องรายงานภาษีต่อเมื่อเข้าข้อยกเว้นหลัก ‘de minimis’ หรือจำนวนที่ทำธุรกรรมคริปโตนั้นมีเพียงเล็กน้อย ซึ่งก็มีนักวิจารณ์มองว่ามันอาจทำให้คนหลีกเลี่ยงภาษี Bitcoin มากขึ้น
การหลีกเลี่ยงภาษีจะมีให้เห็นเป็นการทั่วไป
จากข้อมูลของ Law360 คุณ Omri Marian จาก Irvin School แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียไม่ได้เห็นด้วยกับหลักเกณฑ์ดังกล่าวเท่าใดนัก ซึ่งในมุมมองของคุณ Marian มองว่าการมีกฎเกณฑ์เช่นนี้จะยิ่งทำให้ผู้ถือคริปโตจำนวนมากพยายามที่จะหลีกเลี่ยงภาษี Bitcoin โดยใช้กลยุทธ์ gamemanship ในการรายงานทางการเงินของพวกเขา
โดยข้อยกเว้นของหลัก de minimis คือจะทำให้ผู้ถือคริปโตไม่ต้องรายงานผลกำไรจากการทำธุรกรรมที่มีมูลค่าเล็กน้อย ซึ่งมันเกิดจากการที่มีผู้ถือคริปโตหลายคนเรียกร้องให้มีข้อยกเว้นเพื่อบรรเทาภาระภาษีให้กับพวกเขา
ตามความเห็นของคุณ Marian มองว่า:
“มันจะเป็นการเปิดโอกาสให้มีการหลีกเลี่ยงภาษีมากขึ้นและใช้เทคนิคการหลีกเลี่ยงภาษีโดยพยายามใช้หลักข้อยกเว้น de minimis”
จากการที่มีข้อยกเว้นดังกล่าวเกิดขึ้นมันจะทำให้ผู้ถือคริปโตพยายามที่จะรายงานการทำธุรกรรมของตนให้เข้ากับหลักเกณฑ์ของหลัก de minimis เพื่อที่ตนจะได้รับการยกเว้นไม่ต้องรายงานภาษี เป็นไปได้ว่าคนจะเริ่มสร้างบอทไว้ทำหน้าที่รายงานการทำธุรกรรมให้เข้ากับหลักเกณฑ์ของข้อยกเว้นทางภาษี
ศาสตราจารย์ด้านภาษีกล่าวด้วยว่านโยบายดังกล่าวจะเพิ่มปริมาณงานให้กับกรมสรรพากร (IRS) ของสหรัฐอเมริกาเป็นอย่างมากเพราะคุณลักษณะของการไม่ระบุชื่อของอุตสาหกรรมคริปโตจะยิ่งทำให้การบังคับใช้ข้อยกเว้นหลัก de minimis เป็นภาระที่หนักอึ้งของกรมสรรพากร
ก่อนหน้านี้ทางกรมสรรพากรก็เคยมีประกาศออกมาเตือนนักเทรด นักลงทุนคริปโตและเว็บเทรดให้หลีกเลี่ยงการพยายามบิดเบือนรายการสินทรัพย์คริปโตของตน
การออกกฎเกณฑ์ยกเว้นการเสียภาษีคริปโต
การที่มีการเรียกร้องให้มีข้อยกเว้นภาษีคริปโตกรณีที่มีการทำธุรกรรมจำนวนเล็กน้อยนั้นเกิดขึ้นภายหลักจากที่กรมสรรพากรออกแนวทางกำกับดูแลภาษีคริปโตมาก่อนหน้านี้สองฉบับ และการที่มีการออกแนวทางการกำกับดูแลมาเช่นนั้นมันจะยิ่งทำให้คนเลือกใช้คริปโตในการทำธุรกรรมจำนวนเล็กน้อยมากขึ้น
ถ้าหากไม่มีการออกกฎเกณฑ์ยกเว้นภาษีกรณีที่มีการทำธุรกรรมจำนวนเล็กน้อยมาเช่นนี้ อนาคตหาก Bakkt เปิดตัวแอปพลิเคชั่นที่ให้ผู้ใช้งานจ่ายค่ากาแฟสตาบัคเป็นคริปโตขึ้นมาแล้วมันอาจสร้างภาระให้กับลูกค้าเหล่านี้ที่จะต้องมาจ่ายภาษีกันอีก
การยกเว้นภาษีตามหลัก de minimis สำหรับคริปโตเป็นส่วนหนึ่งของพระราชบัญญัติการจัดทำภาษีโทเค็นในปัจจุบันของรัฐสภาสหรัฐฯ โดยจะประกอบไปด้วยบทบัญญัติที่จะทำให้บุคคลได้รับการยกเว้นภาษีสำหรับการธุรกรรมคริปโตต่ำกว่า 600 ดอลลาร์
ที่มา : btcmanager
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น