ปัจจุบันผู้ประกอบการสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทยยังคงตกอยู่ภายใต้ความไม่แน่นอน ของกฏเกณฑ์ในประเทศ ซึ่งทางก.ล.ต ได้เล็งเห็นปัญหาเหล่านี้และได้ตั้งเป้าหมายที่จะแก้ไขกฏเกณฑ์ดังกล่าวให้สอดคล้องกับผู้ประกอบการมากยิ่งขึ้น
อ้างอิงจากโพสต์บล็อกของก.ล.ต ในวันพุธที่ 11 ธันวาคม 2019 ที่เผยว่าทาง ก.ล.ต ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์และแนวทางการกำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล รวมทั้งผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal) ให้สอดคล้องกับระบบนิเวศของการออกสินทรัพย์ดิจิทัล และมีแนวทางตามมาตรฐานสากล พร้อมทั้งส่งเสริมการประกอบธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อคุ้มครองผลประโยชน์ของนักลงทุน
โดยทาง ก.ล.ต. มีแนวคิดที่จะปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับธุรกิจของผู้ประกอบการเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นศูนย์ซื้อขาย, นายหน้า หรือแม้แต่การเทรดสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งธุรกิจเหล่านี้จำเป็นต้องขอรับใบอนุญาตเช่น การเปลี่ยนกำหนดเวลาชำระค่าธรรมเนียม และการเปิดโอกาสให้ผู้ได้รับใบอนุญาตขอขยายระยะเวลาแสดงความพร้อมในการเริ่มประกอบธุรกิจในกรณีมีเหตุจำเป็น รวมถึงปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลในด้านที่สำคัญ ๆ เช่น ระบบการจัดเก็บข้อมูล, ระบบการจัดการและเก็บรักษาทรัพย์สินลูกค้า
นอกจากนั้นแล้ว ก.ล.ต. ยังเล็งเห็นว่าควรปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการกำกับดูแล ICO Portal อีกด้วย เช่น กระบวนการให้ความเห็นชอบ การกำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และการจัดเก็บข้อมูล เพื่อคุ้มครองผลประโยชน์ผู้ลงทุน
รายชื่อบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตการแลกเปลี่ยนทรัพย์สินคริปโตในประเทศไทย
จากข้อมูลของสำนักงาน ก.ล.ต. พบว่าตอนนี้มี 4 บริษัทที่ได้รับใบอนุญาตการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนทรัพย์สินคริปโตในประเทศไทย ซึ่งได้แก่
- Bitkub Online Co Ltd
- Satang Pro Corporation
- Bitherb Co Ltd (bitherb.net)
- Huobi Thailand Co Ltd (ตอนนี้ยังไม่เปิดให้บริการ)
การเคลื่อนไหวดังกล่าวนั่นถือว่าเป็นก้าวแรกและก้าวที่สำคัญของประเทศไทยที่ได้ยกระดับกฏเกณฑ์ของสินทรัพย์ดิจิทัลให้สอดคล้องกับธุรกิจมากยิ่งขึ้น
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น