SIX Network เครือข่ายที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain และ Smart Contract เพื่อสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลด้วยการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ดีขึ้นกว่าปัจจุบันได้ออกมาประกาศเปิดตัวโปรเจ็ค ECHO หรือระบบลงทะเบียนข้อมูลทางอัตลักษณ์ (identity) บนเทคโนโลยี Blockchain เพื่อปกป้องลิขสิทธิ์ของผู้สร้างสรรค์ผลงานแล้ว
อ้างอิงจากข้อมูลที่ปรากฏอยู่บน Medium ระบบ ECHO คือระบบที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อนำมาใช้กับการบันทึกข้อมูลลิขสิทธิ์ของกลุ่มผู้สร้างสรรค์ผลงานซึ่งในกระบวนการตรวจสอบ ECHO นั้นมีขั้นตอนพิเศษในการเชื่อมโยงข้อมูลอัตลักษณ์ของสินทรัพย์โดยใช้ SIX TOKEN โดยจะมีกระบวนการต่างๆ ให้ผู้สร้างสรรค์ผลงานสามารถอัพโหลดผลงานเข้าไปบน ECHO แล้วข้อมูลเหล่านั้นจะถูกจัดทำให้อยู่ในรูปแบบของโทเค็นเพื่อใช้ตรวจสอบข้อมูลหากมีการทำซ้ำเนื้อหาของผู้สร้างสรรค์ผลงาน ซึ่งผู้อ่านที่สนใจสามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่และที่นี่
เนื่องจากโปรเจ็คดังกล่าวนั้นมีความน่าสนใจมากๆ ทางสยามบล็อกเชนจึงได้ทำการสัมภาษณ์ไปยังคุณนิศานาถ ธาดาบุษปะ ผู้ร่วมก่อตั้งและ CFO ของ SIX Network ถึงรายละเอียดของโปรเจ็ค ECHO และคุณธันย์นิชา จิตรัตน์ธนันท์ Marketing Director SIX Network
สยามบล็อกเชน : ขอสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรเจ็ค ECHO หน่อยนะครับ
หัวหน้าฝ่ายการตลาดของ SIX Network : ECHO เป็นระบบ Blockchain ที่สร้างมาเพื่อปกป้องลิขสิทธ์จากเจ้าของผลงานตัวจริง ที่อยู่ทำงานสร้างสรรค์เช่นพวกงานครีเอทีฟ นักเขียน ช่างภาพ นักแต่งเพลง เขียนบทละคร เขียนบทความ ต่างๆ ซึ่ง ECHO สามารถที่จะตรวจสอบว่าผลงานที่ upload ขึ้นแล้วนั้นมีซ้ำกันหรือไม่เพื่อป้องกันการคัดลอกผลงาน ตอนนี้เราได้ดำเนินการโดยมี content อยู่ในระบบออกเช็ค 1 ล้าน content
นอกจากนั้นแล้วทางสยามบล็อกเชนก็ได้สอบถามความคิดเห็นไปยังทั้งสองถึงประเด็นที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือในเรื่องของราคาเหรียญ SIX ว่าจะได้รับผลกระทบอะไรหรือไม่อย่างไร ซึ่งทางผู้ร่วมก่อตั้งก็ได้ไม่ได้ออกมาตอบประเด็นตรงๆ โดยได้กล่าวถึงตัวโปรเจ็คแทน
“ระบบ ECHO ที่ทางเราพัฒนาขึ้นมานั้นเพื่อให้ creators สามารถที่จะปกป้องผลงานของตัวเอง ดังนั้นสิ่งที่เราทำ ณ วันนี้ก็เพื่อให้ไม่เพียงแต่ creators เองแต่ platforms ต่างๆ โดยเฉพาะ UGC platform ให้ช่วยปกป้องสิทธิ์ของ creators ด้วย ซึ่งอย่างที่รู้กันว่าเราก็จะ expand (ขยาย) จากไทยที่เรามี UGC platform ที่ใหญ่ที่สุดอยู่แล้ว ซึ่ง platform ที่เข้ามาใช้ระบบของเรา จำเป็นต้องมี six token ในมือเพื่อใช้ในการอัพโหลดข้อมูลเข้าระบบของเราค่ะ จากที่เห็น ณ วันนี้เพียงเดือนเดียว เราก็มีมากกว่าล้านผลงานแล้ว และความเร็วในการอัพโหลดผลงานขึ้นไปบนระบบของเราก็ดีขึ้นเรื่อยๆ
เรื่องราคานี่ตอบไม่ได้จริงๆ เพราะไม่รู้จริงๆ แต่ถ้าเรามามองกันในกลไกทางเศรษฐศาสตร์ตามหลักการแล้ว สินค้าที่ไม่ถูกควบคุม ถ้าความต้องการยิ่งมาก พ่อค้าแม่ค้าก็คงรอเวลาอยู่แหละค่ะ”
เราได้เห็นความเคลื่อนไหวในด้านต่างๆ ของอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซีและ Blockchain มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะได้เห็นแล้วว่าเหรียญคริปโตนั้นไม่ได้มีไว้เพื่อเก็งกำไรอย่างเดียว มันสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในแง่อื่นๆ ได้ด้วยอย่างเช่นในกรณีของโปรเจ็ค ECHO นับว่าเป็นการผลักดันและสร้างสรรค์ต่อยอดเทคโนโลยีให้มีการใช้ประโยชน์มากขึ้นอีกระดับหนึ่งจริงๆ
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น