นักแฮ็กทำการเจาะเข้าระบบบริษัทกฎหมายของสหรัฐเรียกค่าไถ่เป็น Bitcoin จำนวนกว่า 100 BTC ของทั้งสองบริษัท โดยบริษัทแรกแฮ็กเกอร์ขอให้บริษัททำการ restore ข้อมูลการเข้าถึง ส่วนอีกบริษัทหนึ่งนักแฮ็กขอให้ลบข้อมูลสำเนาของพวกเขา
อ้างอิงจากข้อมูลของบริษัททางไซเบอร์ Emsisoft เผยว่ากลุ่มนักแฮ็ก Maze เริ่มเผยแพร่ข้อมูลที่ได้ขโมยมาจากบริษัททั้งสองดังที่กล่าวไป 2 ใน 5 บริษัทถูกแฮ็กใน 24 ชั่วโมงที่ผ่าน
แฮ็กเกอร์เผยแพร่ข้อมูลบนเว็บไซต์สองเว็บไซต์ กลุ่มนักแฮ็ก Maze ได้ทำการลิสต์รายชื่อบริษัทที่ตนเองแฮ็กไว้บนเว็บไซต์ของตนและถ้าหากบริษัทพวกนั้นไม่ยอมจ่ายเงินตามที่ตนเรียก พวกเขาจะค่อยๆ ทยอยเผยแพร่ข้อมูลที่กลุ่มของตนขโมยมาและจะเริ่มปล่อยข้อมูลที่จะต้องปกปิดเป็นความลับออกมา แต่ถ้าบริษัทยอมจ่าย กลุ่มนักแฮ็กนี้ก็จะยอมลบชื่อบริษัทออกจากเว็บไซต์ในที่สุด
นอกจากนี้ยังมีผู้ให้ข้อมูลออกมากล่าวว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์นี้ได้เผยแพร่ข้อมูลในฟอรัมแฮ็กเกอร์รัสเซียพร้อมใส่ข้อความว่าให้ใช้ข้อมูลนี้ไปตามที่คุณต้องการเลย เขาเลยเชื่อว่ามันจะต้องมีการเผยแพร่ข้อมูลออกมาอีกแน่ๆ
“องค์กรก่ออาชญากรรมไม่น่าจะลบข้อมูลไปง่ายๆ เพราะข้อมูลเหล่านั้นมันทำเงินได้”
เขาอธิบายต่อไปว่ากลุ่มแรนซัมแวร์เริ่มขโมยข้อมูลตั้งแต่ท้ายปี 2019 แล้วตอนนี้อาชญากรไซเบอร์กำลังคุกคามผู้ที่ตกเป็นเหยื่อด้วยการเผยแพร่ข้อมูลเพื่อรีดไถเงิน บริษัทที่มักตกเป็นกลุ่มเป้าหมายในการแฮ็กก็คือบริษัทกฎหมาย, บริษัทบัญชี, บริษัทประกัน และอื่นๆ
จากข้อมูลของบริษัทความปลอดภัยทางไซเบอร์ Emsisoft พบว่ามันมีการแฮ็กเกิดขึ้นกว่า 200,000 ครั้งในปีที่แล้วและในการแฮ็กแต่ละครั้งจะเป็นการเรียกเงินไม่ต่ำกว่า $80,000
มันมีการแฮ็กเพื่อขโมย sensitive data มากมายในทุกวันนี้ซึ่งจำเป็นที่จะต้องมีการบังคับทางกฎหมายที่แน่นหนาและรัดกุมมากขึ้นและเป็นภัยคุกคามที่มองข้ามไม่ได้ หากมีการแฮ็กเกิดขึ้นในสังคมคริปโตมากขึ้นเรื่อยๆ จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ทั้งความน่าเชื่อถือและอาจทำให้คนกลัวไม่กล้าเข้ามาในอุตสาหกรรมนี้ก็เป็นได้
ที่มา : cointelegraph
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น