ในวันนี้นักเทรดคริปโตจำนวนมากเริ่มรู้สึกหัวร้อนกับคำสั่งซื้อขายคริปโตบนเว็ปเทรดอันดับหนึ่งอย่าง Binance ที่มีอาการล่าช้าเกิดขึ้น
CEO BINANCE ยอมรับว่าการแสดงผลคำสั่งซื้อขายมีความล่าช้า
นาย Changpeng Zhao (CZ) ซีอีโอของ Binance ได้มีการทวีตถึงผู้ติดตามของเขาเกี่ยวกับปัญหา “ความล่าช้าเล็กน้อย” ที่เกิดขึ้นในคำสั่งซื้อขายสำหรับบางคู่เงิน โดยเขากล่าวว่า :
“การแสดงผลของคำสั่งซื้อขาย (order book) นั้นมีความล่าช้าเล็กน้อย ทีมงานของเรากำลังทำงานอย่างหนักเพื่อแก้ไขในสิ่งที่เกิดขึ้นและไม่ต้องกังวล เพราะเงินของคุณยังคงปลอดภัย #SAFU”
There is a slight delay in the order book display across some trading pairs. Team are working on it. Funds are #SAFU.
— CZ Binance ??? (@cz_binance) February 13, 2020
อย่างไรก็ตามดูเหมือนเรื่องราวนี้จะไม่จบลงง่าย ๆ เนื่องจากมีนักลงทุนหลายคนที่ไม่สามารถขายคริปโตเคอเรนซี่ของพวกเขาได้ทัน ก่อนที่ราคา Bitcoin จะร่วงลดลง เนื่องจากระบบของคำสั่งซื้อขายนั้นมีความล่าช้าเกิดขึ้น
โดยผู้ใช้งานรายหนึ่งกล่าวว่า :
“ขอบคุณที่ปล่อยให้ราคา Bitcoin ร่วงจาก 10,500 สู่ 10,100 ใน 5 นาทีนะครับ”
ในขณะที่คนอื่น ๆ พยายามชี้ไปที่เรื่องอินเทอร์เฟซของ Binance :
“นี่เป็นช่วงเวลาที่คุณจะพิจารณาปรับปรุง UI ของคุณ ก่อนที่จะเพิ่มฟีเจอร์อื่น ๆ เข้ามาหรือไม่”
ส่วนคนอื่น ๆ ก็ได้มีการพูดถึงเรื่องความปลอดภัยว่า :
“เงินของผมจะปลอดภัยได้อย่างไร ? ในเมื่อตลาดราคาได้ร่วงลดลงกว่า 10% และผมไม่สามารถยกเลิกคำสั่งซื้อของผมได้”
ปัญหาได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว แต่ใครจะเป็นคนรับผิดชอบความสูญเสียที่เกิดขึ้น ?
ปัญหาการเรื่องความล่าช้าได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็วและนาย CZ ก็ได้ออกมากล่าวขออภัยกับสิ่งที่เกิดขึ้น
Fixed. Apologies for the inconvenience. https://t.co/OgSkVjTij6
— CZ Binance ??? (@cz_binance) February 13, 2020
อันที่จริงแล้วดูเหมือนว่าปัญหาความล่าช้าของคำสั่งซื้อขายนั้นจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ไล่เลี่ยกับช่วงที่ราคา Bitcoin พุ่งแตะระดับบ $ 10,500 และลดลงทันที 10% หลังจากนั้น
ในขณะเดียวกันผู้ติดตามของ CZ หลายคนก็ได้ออกมาตั้งคำถามว่า ใครจะเป็นคนรับความผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น :
“ผมเสียเงินไปกว่า 17,100 ดอลลาร์ ! คุณช่วยชดใช้ค่าเสียหายให้ผมได้ไหม !!!!”
สำหรับปัญหาในเรื่องการหยุดทำงานและความล่าช้าของระบบนั้น ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงมันได้ เพราะ Binance เป็นเหมือนกับโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ ซึ่งสักวันหนึ่งก็ต้องมีปัญหาเช่นนี้เกิดขึ้น
แต่ถึงกระนั้นก่อนที่ Binance จะทำการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ , อัตราเลเวอเรจ หรือ เพิ่มคู่เงินใหม่ ๆ เข้ามา พวกเขาก็ควรทำให้ผู้ใช้งานแน่ใจก่อนว่าระบบคำสั่งซื้อขายจะมีความเสถียรมากพอที่จะไม่ทำให้ใครต้องขาดทุน
ที่มา : bitcoinist
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น